23 วินาที คือประตูที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยูโร
JBONEWS ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือศึกยูโร จัดการแข่งขันกันมาแล้ว 17 ครั้ง ผ่านสมรภูมิการชิงแชมป์ทวีปมาแล้ว 64 ปี มีนักฟุตบอลร่วมฟาดแข้งหลายพันคน และนักเตะหลายร้อยคนมีชื่อเป็นผู้ทำประตูให้ชาติตัวเองได้สำเร็จ วันนี้เราจะพาไปดูนักเตะที่ทำประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันตลอด 64 ปีที่ผ่านมา
23 วินาทีเร็วสุดในประวัติศาสตร์
โดยประตูที่เกิดขึ้นเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เกิดขึ้นในฟุตบอลยูโร 2024 ที่กำลังฟาดแข้งบนแผ่นดินเมืองเบียร์ ที่เยอรมนี เป็นเจ้าภาพ จากเกมนัดแรกของกลุ่มบี แอลเบเนีย พบ อิตาลี แม้แอลเบเนียจะแพ้อิตาลีไป 1-2 แต่ก็มีประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของศึกยูโร เกิดขึ้นในช่วง 23 วินาทีแรก เนดิม บัจรามี แนวรุกของแอลเบเนีย รับบอลจากความผิดพลาดของเฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ กองหลังอิตาลี ที่ทุ่มบอลพลาด ก่อนจะยิงบอลผ่านมือจิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าไป ทำลายสถิติเดิมของ ดิมิทริ คิริเชนโก้ ของรัสเซียที่ยิงใส่กรีซ ในยูโร 2004 ที่เคยทำไว้ 1 นาทีกับอีก 5 วินาที
อีก 1 ประตูที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที
ประตูที่เร็วที่สุดอันดับ 2 เกิดขึ้นในศึกยูโร ครั้งนี้เช่นกัน ในรอบ 16 ทีม ที่ตุรกีพบกับออสเตรีย ฮีโร่ของเกมนี้ เมริห์ เดมิรัล เซนเตอร์แบ็คทีมชาติตุรกี ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ตุรกี เฉือน ออสเตรีย 2-1 เข้ารอบ 8 ทีมไปพบกับเนเธอร์แลนด์ โดย 1 ใน 2 ประตู ของเมริห์ ใช้เวลาเพียง 57 วินาทีเท่านั้น
4 จาก 6 อันดับแรกที่ยิงเร็วสุดเกิดขึ้นในศึกยูโร 2024
- 1. 23 วินาที / นาดิม บัจรามี (แอลเบเนีย พบ อิตาลี ยูโร 2024)
- 2. 57 วินาที / เมริห์ เดมิรัล (ตุรกี พบ ออสเตรีย ยูโร 2024)
- 3. 1.05 นาที / ดิมิทรี คิริเชนโก้ (รัสเซีย พบ กรีซ ยูโร 2004)
- 4. 1.13 นาที / ยูริ ติเลอมองส์ (เบลเยี่ยม พบ โรมาเนีย ยูโร 2024)
- 5. 1.22 นาที / เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (สวีเดน พบ โปแลนด์ ยูโร 2020)
- 6. 1.32 นาที / ควิช่า ควารัตสเคเลีย (จอร์เจีย พบ โปรตุเกส 2024)
1.57 นาทีคือประตูที่เร็วที่สุดในศึกยูโรนัดชิง
ส่วนสถิติยิงประตูได้เร็วที่สุดในนัดชิงชนะเลิศ เป็นเกมนัดชิงยูโร 2020 ที่ใช้สนามเวมบลีย์เป็นสังเวียนนัดชิง ที่อังกฤษ พบกับ อิตาลี ก่อนที่จะเป็น ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษ ยิงด้วยซ้ายข้างถนัดเข้าไปตั้งแต่ 1.57 นาที แต่ผลสุดท้ายเสมอกันในเวลา และต่อเวลาทำอะไรกันไม่ได้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ก่อนจะเป็นอิตาลี ที่แม่นโทษกว่า ชนะอังกฤษ ก้าวไปคว้าแชมป์ทวีป เป็นสมัยที่ 2 ของพวกเขา ซึ่งประตูที่ ลุค ชอว์ ยิงได้ในเกมนัดชิง เร็วที่สุดเป็นอันดับ 9 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 7. 1.39 นาที / ยูซุฟ โพลเซ่น (เดนมาร์ก พบ เบลเยี่ยม ยูโร 2020)
- 8. 1.40 นาที / โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โปแลนด์ พบ โปรตุเกส ยูโร 2016)
- 9. 1.57 นาที / ลุค ชอว์ (อังกฤษ พบ อิตาลี ยูโร 2020)
- 10. 1.58 นาที / ร็อบบี้ เบรดี้ (ไอร์แลนด์ พบ ฝรั่งเศส ยูโร 2016)
มาลุ้นต่อกันว่าเกมที่เหลือในศึกยูโร 2024 จะมีใครยิงประตูทำลายสถิติของนาดิม บัจรามี ที่ทำไว้ 23 วินาที ได้หรือไม่หรือศึกยูโร ครั้งต่อๆ ไป ใครจะมายิงทำลายต้องติดตาม
ที่มา: https://theanalyst.com/eu/2024/07/fastest-goals-in-european-championship-history/
รอดูผลงาน โทนี่ โครส หลังจากนี้เขาจะเพิ่มจังหวะดี ๆให้ทัพอินทรีเหล็ก ได้หรือไม่
ส่วนตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังรอลุ้นกันต่อว่า โครส จะมีสิทธิ์ลงเล่นในฐานะตัวจริงหรือเปล่า อีกทั้งผลงานของเขาทันทีที่มีส่วนร่วมกับทีมจะออกมาเป็นที่พอใจมากน้อยแค่ไหน เพราะสถานการณ์ปัจจุบันของทัพอินทรีเหล็ก ในเวลานี้ต้องยอมรับว่าย่ำแย่สุด ๆ ใน 5 ปี หลังเป็นต้นมา
ที่มา: https://web.facebook.com/photo/?fbid=1005386604722164&set=a.188926249701541
#JBO #JBOThailand #ดิมิทาร์เบอร์บาตอฟ #เบอร์บาตอฟ #JBOxBerbatov #JBOที่เดียวที่คุณจะชนะ #สุดยอดเกมส์ชีวิตสุดมันส์ #ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ #GoodGameLiveBetter #YouWinIWin #EURO2024 #ข่าวบอล #Euro2024xJBO #ยูโร2024 #Euro2024 #JBOVIP
