ถือเป็นค่ำคืนประวัติศาสตร์ของชาวเมืองเลเวอร์คูเซ่น ที่ได้เฮกันทั้งเมือง หลังทีมรักของพวกเขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมในปี 1904 เรียกได้ว่าพวกเขารอคอยแชมป์ลีกมานานเกือบ 120 ปี 6 คีย์แมนสำคัญที่พาพวกเขาคว้าแชมป์ได้สำเร็จมีใครกันบ้างไปดูกัน
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าบุคคลสำคัญที่สุด ที่สร้างรอยยิ้มและความสำเร็จให้กับทีมห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น นั่นคือ ชาบี อลอนโซ่ การมาของชาบี อลอนโซ่ ในเดือนตุลาคมปี 2022 ณ ขณะนั้นเลเวอร์คูเซ่น
อยู่รองบ๊วยของตารางแข่ง 8 นัดมี 5 คะแนน ก่อนจะกู้วิกฤตพาทีมจบอันดับ 6 ของตารางบุนเดสลีกาพร้อมได้โควต้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่างฟุตบอลยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลนี้ และล่าสุดนำทีมหยุดสถิติการคว้าแชมป์ของบาเยิร์น มิวนิค ไว้ที่ 11 ปีติดต่อกัน ด้วยฟุตบอลเกมบุกเอนเตอร์เทน อย่างมีสไตล์ระดับมาสเตอร์พีช
เมื่อต้องพูดถึงนักเตะคนสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้ ต้องยกให้มิดฟิลด์ตัวรุกดาวรุ่งของทีมวัย 20 ปี ฟลอเรียน เวียร์ท พ่อมดน้อยวัย 20 ปี ลงสนามทุกนัดในลีกที่ทีมลงแข่งทั้งในฐานะตัวจริงและสำรอง ซึ่งทีมขาดมิดฟิลด์ห้องเครื่องรายนี้ไม่ได้เลย 11 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ การมีส่วนร่วม21 ประตู รวมถึงการสร้างสรรค์เกม บ่งบอกได้ว่าเขาสำคัญแค่ไหน
เกมรุกในระบบ 3-4-3 ของทีมห้างขายยา ภายใต้การทำทีมของชาบี อลอนโซ่ 2 ฟลูแบ็คซ้ายขวาสำคัญมากทั้งช่วยเล่นเกมรับและเกมรุกรวมถึงสอดขึ้นไปทำประตูซึ่งอเล็ก กิลมาร์โด้ ฟลูแบ็คซ้ายและเจเรมี่ ฟริมปง ฟลูแบ็คขวา ต่างก็สร้างผลงานได้อย่างประทับใจแฟนบอล ฝั่งซ้ายอย่างอเล็ก กิลมาร์โด้ มีส่วนร่วมกับประตูถึง 22 ประตู เป็นการยิง 9 ประตู และแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงอีก 12 ครั้ง ด้านฝั่งขวาอย่างเจเรมี่ ฟริมปง ก็สามารถช่วยเกมได้ทั้งรุกและรับ วิ่งขึ้นลง มีส่วนร่วมกับประตูให้กับทีม 16 ประตู ยิง 8 และแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงอีก 8 ประตู
นอกจากเกมรุกที่ดุดัน เป็นเครื่องหมายการค้าของทีมในยุคของชาบี อลอนโซ่ แล้ว เกมรับก็เหนียวไม่แพ้กัน 3 กองหลังตัวหลักอย่าง เอ็ดม่อน แทปโซบา,โอดิร่อน คอสซูนู รวมถึงโจนาธาน ทาห์ คือกำแพงเหล็กที่ช่วยให้เกมรับของทีมห้างขายยา แน่นและเสียประตูยากมาก โดยเฉพาะกองหลังวัย 28 ปี ทีมชาติเยอรมัน อย่าง โจนาธาน ทาห์ ที่บัญชาการเกมรับได้อย่างไร้รอยต่อ ผ่านไป 29 นัดพวกเขาเสียไปแค่ 19 ประตู เสียเฉลี่ยไม่ถึง 1 ประตู/เกม นอกจากเกมรับเหนียวแล้ว โจนาธาน ทาห์ ยังจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 97%
การย้ายจากอาร์เซน่อลกลับมาเล่นในบุนเดสลีกา อีกครั้งของนักเตะวัย 31 ปี ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ กรานิต ชาก้า ช่วยเข้ามาเติมเต็มขุมกำลังของเลเวอร์คูเซ่น ให้เกมสมดุลมากขึ้น ทำให้จังหวะทั้งรุกและรับของทีมห้างขายยาเสถียรและสมดุลมากๆ กรานิต ชาก้า สัมผัสบอลมากที่สุดในบุนเดสลีกาที่ 3,145 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเขาคือศูนย์กลางอย่างแท้จริง และการวิ่งโคฟเวอร์ทั้งสนามรวมทุกนัด 317.9 กิโลเมตร เรียกว่าวิ่งเยอะที่สุดในลีกเมืองเบียร์ ในวัย 31 ปี ห้องเครื่องคุมจังหวะเกมโดยแท้จริง กรานิต ชาก้า