ล่าสุด Jake “Boaster” Howlett หนึ่งในสมาชิกของ Fnatic Esport ยืนยันว่า เขาพร้อมจะอัพสกิลตัวเองมากขึ้น เพื่อลุยศึกต่าง ๆ ร่วมกับทีม เพื่อเพิ่มโอกาสให้ทีมมีลุ้นชนะง่ายมากที่สุด ก่อนทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่าตอนนี้เขาเองยังยินดีที่จะทำงานหนักมากขึ้น เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดและเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากเห็นนักกีฬารุ่นพี่ยังคงทำผลงานโดดเด่นแม้ว่าจะเข้าสู่สมรภูมิการแข่งขันมาแล้วนับ 10 ปีก็ตาม
ความตั้งใจของผู้เล่นรายนี้สืบเนื่องมาจากเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lee “Faker” Sang-hyeok สมาชิกของ T1 Esports ซึ่งยังคงโชว์ฟอร์มร้อนต่อเนื่อง ทำให้เขามองว่าหากพัฒนาตัวเองต่อไป เขาจะมีโอกาสเจริญรอยตามผู้เล่นรุ่นพี่แน่นอน พร้อมกันนั้นมองว่าการทำงานของเขาในเบื้องต้นมีความคาดหวังค่อนข้างสูงมากว่าจะต้องทำผลงานของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อเติมเต็มทีมต้นสังกัดระยะยาวให้ได้
ทั้งนี้ย้อนกลับไปที่ Faker ผู้เล่นตำแหน่งมิดเลนของ T1 ที่เหล่าแฟน ๆ LOL ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีศักยภาพสูงที่สุดอีกรายในวงการ Esports เพราะเขามีผลงานและฟอร์มมาตรฐานสูงเสมอทุกครั้งที่ลงสนามแข่งขัน โดยล่าสุดเพิ่งพาทีมลุยศึก Worlds 2023 หมาด ๆ พร้อมโชว์ฟอร์มโหด จนกระทั่งพาทีมจบด้วยตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 4 เป็นทางการ แม้ว่าจริง ๆ เขาควรมีฟอร์มสะดุดลงบ้างหลังจากแข่งขันมาแล้วนานถึง 1 ทศวรรษด้วยกัน
ทั้งนี้การออกมาพูดถึงเรื่องแผนการทำงานของเขาในอนาคตของผู้เล่นศึก Valorant Esports รายนี้ เพิ่มความมั่นใจให้แฟน ๆ โดยตรงทันที เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่มีผลงานยอดเยี่ยมและแข็งแรงอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นคนที่ได้รับการการันตีว่าอันตรายสุด ๆ อีกคนในวงการเกม Valorant เพราะมีผลงานยอดเยี่ยมเสมอและไม่เคยทำให้แฟน ๆ ทุกคนต้องรู้สึกผิดหวังแม้แต่นัดเดียว
ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าตัวเปิดเผยว่า “ในปีนี้ผมตั้งใจจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และทำให้ทุกอย่างออกมาเป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวังแน่นอน โดยไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง โดยหลังจากผมได้ดู Worlds ผมรู้สึกได้ว่า Faker ยังคงสร้างอิมแพ็คในการเล่นสูงมาก และผมควรจะเป็นอย่างเขาให้ได้ โดยหลังจากนี้ผมจะตั้งใจอัพสกิลตัวเองมากขึ้น เพื่อยืนในระดับ Esports ต่อไประยะยาวให้ได้นานที่สุด”
คำพูดของ Boaster น่าจะพอเพิ่มกำลังใจให้เพื่อนร่วมทีมสูงมากขึ้น รวมถึงทำให้แฟน ๆ ใจชื้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะหากเขาทำได้เท่ากับว่าจะมีลุ้นเพิ่มโอกาสดี ๆ ให้ทีมมากขึ้นตามไปด้วยทันที หลังจากผลงานในปี 2023 เขาพาทีมคว้าแชมป์ 2 รายการคือ LOCK//IN São Paulo รวมถึง Masters Tokyo นอกจากนั้นพาทีมคว้าท็อป 4 ใน Valorant Champions 2023