วิคเตอร์ โอซิมเฮน บรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับ แมนฯยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว
ยังคงมีข่าวกับศูนย์หน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก Africa Foot สื่อในแอฟริกา รายงานว่า วิคเตอร์ โอซิมเฮน บรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ ได้เรียบร้อยแล้ว
รายงานตรงกันหลายสื่อ
แหล่งข่าวจากทีมงานของโอซิมเฮนเปิดเผยกับ Africa Foot ว่า ข้อตกลงกับแมนฯ ยูไนเต็ดได้บรรลุเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าทาง นาโปลี และ แมนฯยูไนเต็ด จะยังไม่ได้ตกลงกันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับค่าตัว เช่นเดียวกับนักข่าวชาวตุรกี เซอร์ดาร์ อาลี เซลิคเลอร์ รายงานผ่าน NEO Spor ไปในทิศทางเดียวกันว่า วิคเตอร์ โอซิมเฮน ได้ตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับปีศาจแดงเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งสองสโมสรยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องดีลนี้ แม้จะไม่มีการยืนยันค่าตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 25-30 ล้านปอนด์
สัญญาจะหมดลงในปี 2026
สัญญาของ วิคเตอร์ โอซิมเฮน กับนาโปลี จะหมดลงในปี 2026 ซึ่งนาโปลีไม่ต้องการเสียเขาไปแบบฟรีๆ ซึ่ง Africa Foot ยังเสริมว่า ทีมงานของศูนย์หน้าวัย 26 ปี มีความตื่นเต้นและกระตือรือร้น กับโอกาสในการย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ของโอซิมเฮน โดย แมนฯยูไนเต็ด ติดตามสถานการณ์ของ กองหน้ารายนี้มานานแล้ว และปัญหาเรื่องการจบสกอร์ของแมนนยูไนเต็ด ภายใต้กุนซือ รูเบน อาโมริม ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าจะเกิดขึ้นได้จริง
ฟอร์มร้อนแรงในลีกตุรกี
แม้จะมีสัญญากับนาโปลี แต่ในฤดูกาลนี้ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ลงเล่นกับกาลาตาซาราย ในสัญญายืมตัว พร้อมทำผลงานได้อย่างร้อนแรงเช่นเคย สมกับเป็นเพชฌฆาตยอดดาวยิง โดยดาวยิงทีมชาติไนจีเรีย ยิงไปแล้ว 29 ประตูจากการลงสนาม 34 นัดรวมทุกรายการ และเป็น 21 ประตูในเกมลีกสูงสุดของตุรกี นำเป็นดาวซัลโวของศึกซูเปอร์ลีก ตุรกี ในเวลานี้
ยักษ์ใหญ่ยุโรปให้ความสนใจ
วิคเตอร์ โอซิมเฮน เคยพยายามหาสโมสรใหม่เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากมีปัญหากับต้นสังกัดอย่างนาโปลี แม้จะคาดกันว่าเขาจะย้ายออกจากนาโปลีแบบถาวรในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ดีลก็ไม่เกิดขึ้น ทีมงานของดาวยิงวัย 26 ปี ได้เจรจากับทั้ง เชลซี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และสโมสรในซาอุดีอาระเบีย แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้สุดท้ายเขาถูกตัดชื่อออกจากทีมชุดเซเรีย อาของนาโปลี ก่อนที่ กาลาตาซาราย จะคว้าตัวเขาไปแบบยืมตัวทั้งฤดูกาล แม้กาลาตาซารายอยากเก็บเขาไว้แบบถาวร แต่ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ต้องการย้ายไปร่วมทีมที่ใหญ่และลีกที่มีมาตรฐานกว่า ซึ่ง พรีเมียร์ลีก ก็เป็น 1 ในลีกเป้าหมายของเขา
