อลัน เชียเรอร์ เตือน มาร์คัส แรชฟอร์ด แอสตัน วิลล่า คือ โอกาสสุดท้าย!
มาร์คัส แรชฟอร์ด ย้ายมาร่วมทีม แอสตัน วิลล่า ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล ก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายเดือนมกราคมปิดลง พร้อมออปชั่นในการซื้อแนวรุกรายนี้จาก แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ล่าสุด อลัน เชียเรอร์ ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ออกมาเตือนแนวรุกรุ่นลูกร่วมชาติ ว่านี่คือ โอกาสสุดท้ายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ไม่ได้รับโอกาสจากอโมริม
มาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่ได้ลงเล่นให้กับ แมนฯยูไนเต็ด เลยตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังแสดงความไม่เป็นมืออาชีพให้ รูเบน อโมริม กุนซือใหญ่ของทัพปีศาจแดงเห็น โดยกุนซือชาวโปรตุกีส เคยเผยว่าเขายอมใส่ชื่อโค้ชผู้รักษาประตูวัย 63 ปีของเขา ลงในม้านั่งสำรองดีกว่าใส่ชื่อนักเตะที่ไม่ทุ่มเทเพื่อสโมสร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าปัญหาของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่ใช่ที่ฝีเท้าแต่คือทัศนคติที่เปลี่ยนไปของเจ้าตัว
เชียเรอร์ เชื่อเป็นเรื่องดีกับทุกฝ่าย
ล่าสุด อลัน เชียเรอร์ ให้สัมภาษณ์กับ Betfair ถึงประเด็นของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ว่า “การที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกจาก แมนฯยูไนเต็ด ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ผมรู้ว่ามันเป็นแค่การยืมตัว แต่ตอนนี้เขามีโอกาสที่จะเริ่มต้นอาชีพใหม่แล้ว เพราะเขาห่างไกลจากการตกเป็นเป้าหมายแล้ว และผู้จัดการทีมบางคนก็วิจารณ์เขา พวกเขาบอกว่าเขามีทัศนคติที่ผิด ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
พรสวรรค์นั้นถูกปล่อยทิ้งไป ในช่วงที่ผ่านมา
อดีตศูนย์หน้าตำนานทีมชาติอังกฤษ ยังบอกต่อว่า “เขาต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพราะไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขามีพรสวรรค์ แต่พรสวรรค์นั้นถูกปล่อยทิ้งไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และอาชีพนักฟุตบอลมันสั้น ดังนั้นการปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์จึงเป็นเรื่องแย่มาก ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นใหม่แล้ว เราต้องการเห็นพลังงาน ความรัก และทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พวกเราเคยเห็น ในครั้งเมื่อเขายิงได้ถึง 30 ประตู”

ย้ำ! นี่คือโอกาสสุดท้าย
อลัน เชียเรอร์ ทิ้งท้ายว่า “ผมไม่แน่ใจว่าจะจัดว่าเป็นความสำเร็จได้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือ แรชฟอร์ด ต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม เขาต้องกลับไปแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขายังคงรักฟุตบอล และเขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทีม แอสตัน วิลล่า ที่ประสบความสำเร็จ อูไน เอเมรี่ จะไม่รอคอยอย่างแน่นอน ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่า เขายังรักและต้องการอยู่ในวงการฟุตบอล”