JBONEWS แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ 2 วันหลังจากที่เขานำทัพสิงโตคำราม พ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 ต่อทีมชาติสเปน เซาธ์เกต ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมของทรีไลออนส์มา 8 ปีและพาทีมเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ 4 ครั้ง กล่าวว่า “ถึงเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นบทใหม่” กุนซือวัย 53 ปี ยังกล่าวว่าการเป็นผู้เล่นและผู้จัดการทีมชาติของเขานั้น “เป็นเกียรติของชีวิตและมีความหมายทุกอย่างสำหรับผม”
แกเร็ธ เซาธ์เกต เริ่มเข้ามารับงานในสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ FA ในปี 2011 และเริ่มเข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษชุด U21 ในปี 2013 จนถึงปี 2016 ในขณะนั้น แซม อัลลาไดซ์ กุนซือทีมชาติชุดใหญ่ลาออกกะทันหัน FA จึงแต่งตั้ง แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามาเป็นกุนซือชุดใหญ่คนใหม่ ตลอด 8 ปี จากวันนั้นจนถึงวันนี้ แม้จะไม่สามารถพาทัพสิงโตคำรามประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ที่พวกเขารอคอยกว่า 58 ปี แต่ผลงานถือว่าพาทีมชาติอังกฤษไปได้ไกลกว่าผู้จัดการทีมคนผ่านๆ ม
ถ้าไม่ได้มองแค่ถ้วยรางวัล แกเร็ธ เซาธ์เกต ถือว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจตลอด 8 ปีที่เขาคุมทีมชาติอังกฤษ
โดยช่วงการคุมทีม 6 ปีหลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต พาทีมชาติอังกฤษมีคะแนนฟีฟ่า แรงค์กิ้ง ไม่เคยต่ำกว่าอันดับ 5 ของโลก แม้จะไม่มีถ้วยแชมป์สักใบ แต่การเป็นรองแชมป์ยูโร 2 สมัย,อันดับ 3 เนชั่นลีก และทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษของเขากับทัพสิงโตคำราม
แกเร็ธ เซาธ์เกต เผยผ่านแถลงการณ์ว่า “ในฐานะคนอังกฤษที่ภาคภูมิใจ การได้เล่นให้กับทีมชาติอังกฤษและการได้เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษถือเป็นเกียรติของชีวิตและมีความหมายทุกอย่างสำหรับผม ผมได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับมัน แต่ถึงเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นบทใหม่ นัดชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่กรุงเบอร์ลินกับสเปนคือนัดสุดท้ายของผมในฐานะผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ผมได้รับเกียรติให้นำนักเตะหลายรายลงเล่นตลอดการคุมทีม 102 เกมของผม ทุกคนภูมิใจที่ได้สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษ และพวกเขาทำให้ประเทศภูมิใจในหลายๆ ด้าน ขอขอบคุณเป็นพิเศษถึงทีมงานเบื้องหลังที่ให้การสนับสนุนผู้เล่นและผมอย่างไม่ลดละตลอด 8 ที่ผ่านมา การทำงานหนักและความมุ่งมั่นของพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมทุกวัน และผมขอบคุณพวกเขาอย่างสุดซึ้ง” กุนซือวัย 53 ปี ยังเผยต่อว่า “เรามีแฟนบอลที่ดีที่สุดในโลก และการสนับสนุนของพวกเขามีความหมายกับผมมาก ผมเป็นแฟนบอลอังกฤษและจะเป็นเช่นนั้นเสมอ ผมตั้งตารอที่จะดูและเฉลิมฉลองไปกับพวกเขาที่จะสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษ และเชื่อมโยงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับประเทศอย่างที่เรารู้ว่าพวกเขาสามารถทำได้” เซาธ์เกต ทิ้งท้าย “ขอบคุณ อังกฤษ – สำหรับทุกอย่าง”
มาร์ค บูลลิงแฮม CEO ของ FA เผยว่า “เรามองย้อนกลับไปที่การดำรงตำแหน่งของแกเร็ธด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมของเขาในวงการฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงบทบาทสำคัญในการพัฒนาผู้เล่นและการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมมีความโดดเด่น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือสถิติการชนะเกมในทัวร์นาเมนต์ของเขา ใน 25 ทัวร์นาเมนต์หลังปี 1966 เป็นต้นมาก่อนที่แกเร็ธ เซาธ์เกต จะเข้ามาคุมทีม เราชนะเกมรอบน็อคเอาท์เพียง 7 เกม แต่ใน 4 ทัวร์นาเมนต์ของเขา เราชนะ 9 เกม ดังนั้นในช่วง 8 ปีของเขา เขาชนะเกมที่สำคัญมากกว่าที่เราชนะในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำทัพสิงโตคำรามของแกเร็ธ เซาธ์เกต อังกฤษติด 5 อันดับแรกของโลกเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติอังกฤษ”
มาร์ค บูลลิงแฮม ยังเผยถึงการหาตัวแทนของแกเร็ธ เซาธ์เกต ว่า “กระบวนการสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และมีการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้จัดการทีมชั่วคราวในการแข่งขันยูฟ่า เนชันส์ลีกในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจะมีการประกาศหลังจากการแต่งตั้ง”
โดยสื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่า FA ได้เริ่มทาบทามด้วยวาจากับเหล่าบรรดากุนซือกันไปบ้างแล้ว ซึ่ง Skysport เชื่อว่า FA จะพิจารณากุนซืออังกฤษก่อนเป็นลำดับแรก มี 2 ชื่อแคนดิเดต คือ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือคนปัจจุบันของนิวคาสเซิ่ล และ แกร์ม พอตเตอร์ อดีตกุนซือเชลซี ที่กำลังว่างงาน เรียกได้ว่าเป็นกุนซือหนุ่มรุ่นใหม่ของชาติทั้งคู่ Skysport ยังเผยอีกว่า เมาริซิโอ โปเชตติโน่ อดีตกุนซือเชลซีที่กำลังว่างงานก็สนใจเข้าพูดคุยกับ FA สำหรับตำแหน่งกุนซือทัพสิงโตคำราม เช่นกัน
ที่มา: