หลังจบเกมแข่งขันทางด้าน คอนอร์ คาราเกอร์ กองกลางชาวอังกฤษของ สิงห์บลู ออกมายกความดีความชอบว่าคนที่ทำให้ทีมมีโอกาสชนะนั่นก็คือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ของทีม จากการแก้เกมจนสามารถทำให้ทีมมีโอกาสเก็บชัยชนะสำเร็จ พร้อมย้ำว่าชัยชนะที่เกิดขึ้นกำลังสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในถิ่นอย่างมาก แต่หลังจากนี้ต้องรอดูกันว่าแผนงานของทีมจะเป็นไปในรูปแบบไหน
ถึงแม้ว่าเกมที่ผ่านมาหลายคนยกให้ขุนพลของ เชลซี รายนี้เป็นฮีโร่พาทีมเก็บ 3 แต้มสำคัญสำเร็จ แต่สุดท้ายเจ้าตัวกลับมองว่าคนที่ทุกคนควรให้เครดิตคือกุนซือของทีมมากกว่า เนื่องจากว่าในช่วงครึ่งหลังกุนซือสายเลือดฟ้า-ขาวตัดสินใจเปลี่ยนแท็คติกทีมบางอย่าง และผลลัพธ์ที่ได้คือประสบความสำเร็จในระดับที่ทุกคนคาดหวัง เนื่องจากชัยชนะที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีของทีมไปโดยปริยาย
เกมที่ผ่านมาทางด้าน สิงโตน้ำเงิน คล้ายมีคิวดวลกับ คริสตัล พาเลซ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ท่ามกลางความตื่นเต้นของแฟน ๆ ทุกคนอย่ามาก เนื่องจากเกมนี้แฟนบอลของ สิงห์บลู ต้องการเห็นชัยชนะเป็นทางการของทีมอีกครั้ง หลังจากเกมก่อนหน้านี้เคยสร้างผลงานโดดเด่นมาแล้วครั้งหนึ่ง และผลที่ได้คือแฟนบอลทุกคนยิ้มแป้นเนื่องจากทีมรักเก็บชัยชนะได้ตามเป้าจริง ๆ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเก็บชัยชนะได้ตามเป้า แต่สถานการณ์โดยรวมของทีมตอนนี้ยังไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่ เนื่องจากว่า สิงห์บลู ยังคงรั้งตำแหน่งกลางตารางคะแนน โดยมีแต้มในมืออยู่ที่ 34 แต้ม ซึ่งห่างจากทีมที่มีลุ้นไปทัวร์ยุโรปอย่างรายการ ยูโรป้า ลีก มากถึง 7 แต้มด้วยกัน ทำให้พวกเขาต้องพยายามมากกว่านี้หากต้องการเป็น 1 ใน 6 ทีมที่มีลุ้นไปเล่นในเวทียุโรปเป็นทางการ
ล่าสุดทางด้านมิดฟิลด์คนดังเปิดเผยว่า “เกมที่ผ่านมาเราต้องยกความดีความชอบให้ โปเช็ตติโน่ เพราะเขาเป็นคนวางแผน จนทำให้ทีมของเรามีโอกาสชนะสูงขึ้น แน่นอนว่าชัยชนะที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าไม่ขาด แต่ทำให้เราทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนหลังจากนี้เราตั้งใจจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยมีเป้าหมายชัดเจนนั่นก็คือเราต้องเก็บชัยชนะทุกนัดที่เหลือให้ได้”
โดยหลังจากนี้ต้องรอดูกันว่าทางบ้าน คาร์ราเกอร์ สามารถพาทีมคว้าชัยชนะเกมที่เหลือต่อได้หรือไม่ เพราะนัดต่อไปถือว่าเป็นงานหนักของพวกเขาอย่างมาก เมื่อต้องลงเล่นโดยต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรที่กำลังลุ้น ตำแหน่งจ่าฝูง และมีแนวโน้มว่าจะป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อีกครั้งอีกด้วย
ที่มา: https://www.goal.com/en/lists/conor-gallagher-mauricio-pochettino-chelsea-crystal-palace-comeback/bltd948f530169a451f#cs2521d493e76e45f0
ล่าสุดทางด้าน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ของ เชลซี เปิดใจว่า แฮปปี้มากหลังจากลูกทีมทุกคนมีความมุ่งมั่นกับเกมแข่งขัน ส่งผลให้ความตั้งใจเป็นการเก็บชัยชนะเป็นไปตามเป้าที่วางเอาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีของการทำงาน นอกจากนั้นยังทำให้เขาเบาใจมากขึ้นอีกด้วย และหวังว่าในนัดต่อไปทุกคนจะมีผลงานยอดเยี่ยมแบบเดียวกันกับรายการ FA ต่อเนื่อง
เกมล่าสุดที่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์รายนี้พาสทีมลงสนามแข่งขันกับรายการ เอฟเอ คัพ รายการเก่าแก่ของประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ก่อนเกมแข่งขันเริ่มต้นขึ้นกูรูคนดังและแฟนบอลต่างกังวลว่า กุนซือสายเลือดฟ้าขาวรายนี้จะสามารถพลิกสถานการณ์พาทีมเก็บชัยชนะได้หรือไม่ และสุดท้ายชัยชนะปรากฏขึ้นกับทีมดังในกรุงลอนดอนอย่างเป็นทางการ ทำให้ทีมมีโอกาสผ่านไปเล่นรอบต่อไปสำเร็จ
สำหรับผลงานของทีมดังในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่เปิดซีซั่น 2023-2024 เป็นต้นมา ผลงานที่ชินตาแฟนบอลทุกคนมาโดยตลอดคือไม่แพ้ก็เสมอ ส่วนคำว่าชนะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทำให้ก่อนเกมแข่งขันเริ่มต้นขึ้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมกูรูคนดังจึงมองว่าเกมนี้ สิงห์บลู ไม่น่ารอด ดังนั้นการพลิกเอาชนะคู่แข่งอย่าง แอสตัน วิลล่า ภายใต้การนำทัพของ อูไน เอเมรี่ ครั้งนี้จึงเป็นการสิ่งท้าทายของเขาไปโดยปริยาย
สำหรับเกมที่ผ่านมาการเอาชนะ สิงห์ผงาด มาได้ด้วยสกอร์รวมที่ 3-1 นับว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากผลงานตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเรื่อยมา เพราะชัยชนะที่เกิดขึ้นส่งผลให้พวกเขาตีตั๋วไปเล่นรอบที่ 5 ของรายการ เอฟเอ คัพ ทันที รวมถึงเกมนี้ถือว่าเป็นแบบสำคัญของทุกคนในทีม เพราะเป็นการเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับคืนมา เพื่อเริ่มต้นใหม่ลุยศึกที่เหลือต่อไป
อย่างไรก็ตามล่าสุดทางด้านเจ้าตัวย้ำว่า “สำหรับเกมที่ผ่านมาพึงพอใจผลงานของทุกคนอย่างมาก ทุกคนตั้งใจและมีสมาธิได้ดี และนี่คือก้าวสำคัญของเราสำหรับการออกจากเซฟโซน หลังจากนี้ผมเชื่อว่าทุกคนจะมีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงกล้าทำ กล้าเล่นมากขึ้นในสนามแข่งขัน ทั้งนี้สิ่งที่ผมคาดหวังมากที่สุดก็คือขอให้ทุกคนรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสดี ๆ ให้กับทีมของเรามากขึ้นทุกรายการที่เหลือ”
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าทางด้าน โปเช็ตติโน่ สามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้แล้ว แต่อนาคตของเขาตอนนี้ยังหาความแน่นอนไม่ได้ หากเขาทำพลาดอีกแค่ไม่กี่นัดอาจจะต้องบอกลาตำแหน่ง เพื่อหลีกทางให้คนอื่นเข้ามารับช่วงต่อแทนที่เขาสูงเหมือนเดิม
มีรายงานออกมาว่า เชลซี กำลังให้ความสนใจ จอน ตูราม หัวหอกตัวสำรองของคู่แข่งร่วมลีกสุด ๆ และมีแผนดึงตัวเขาเสริมทัพให้ได้ หากมีโอกาสสบช่องจะปิดดีลแข้งเป้าหมายเสริมทัพสำเร็จ แต่งานนี้ยังไม่ชัวร์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะจนถึงตอนนี้มีแนวโน้มว่าต้นสังกัดของแข้งเป้าหมายยังไม่ได้สนใจปล่อยเขาพ้นทีม ส่งผลให้เส้นทางการปิดดีลแข้งดังกล่าวเสริมทัพของทีมดังในกรุงลอนดอนช่วงเดือนมกราคมนี้
นอกจากนั้นสื่อหลายสำนักในอังกฤษเปิดเผยว่า สิงห์บลู กำลังเตรียมยื่นข้อเสนอให้ แอสตัน วิลล่า หวังปิดดีลครั้งนี้ให้ไวที่สุด แม้ว่าการวางแผนเสริมของทีมอาจจะไม่ตรงตามเป้าที่ทุกคนคาดหวังก็ตาม เพราะดูเชิงทางด้านต้นสังกัดของหัวหอกคนสำรองกลับไม่ได้สนใจจะพิจารณาข้อจากทีมต่าง ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากตอนนี้พวกเขาตั้งเป้าว่าต้องการร่างมากแต่เอาไว้ใช้งานระยะยาวมากกว่า
อย่างไรก็ตามสำหรับข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลให้แฟนบอลของ สิงโตน้ำเงินคราม ตื่นเต้นสูงอีกด้วย เนื่องจากว่าการเสริมทัพของพวกเขาในช่วงกลางปีก่อนยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก ส่งผลให้ทีมมีผลงานไม่ค่อยดีเท่าไรนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดรอบ 2 ปีนี้การหาตัวเลือกใหม่เข้ามาเสริมทัพ จึงเป็นคำตอบที่ดีสำหรับการยกระดับทีมมากขึ้น อีกทั้งหลายคนต่างเห็นแล้วว่าผลงานของ ตูราม ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าน่าสนใจมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าเขาจะลงเล่นในฐานะตัวสำรองก็ตาม
ทั้งนี้สำหรับแผนการดึงตัวผู้เล่นรายนี้เข้ามาเสริมทัพจะอยู่ในรูปแบบของสัญญายืมตัว เนื่องจากว่าทางผู้บริหารของ สิงห์บลู ต้องความมั่นใจว่า นักเตะรายนี้มีดีพอจะช่วยยกระดับทีมและดีพอสำหรับตัวจริงในอนาคต รวมถึงเป็นการลงทุนที่ทำให้รู้สึกถึงความคุ้มค่า จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตอนนี้พวกเขามีแผนจะยื่นข้อเสนอรูปแบบสัญญายืมตัวชั่วคราว ซึ่งคาดการณ์กันว่าน่าจะอยู่ในระยะเวลา 6 เดือน หรือจนจบฤดูกาลนี้ ก่อนจะมาว่ากันอีกทีเกี่ยวกับอนาคตในช่วงท้ายฤดูกาล
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าทางด้าน สิงห์บลู ตั้งแต่จะยื่นข้อเสนอปิดดีลนักเตะแค่ไหน แต่ทางด้านต้นสังกัดของนักเตะอย่าง สิงห์ผยอง กลับไม่ได้เห็นดีเห็นงามในการตัดสินใจปล่อยเขาพ้นทีมแต่อย่างใด รวมถึงมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะกันถ้าเจ้าตัวจากทีมต่าง ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ยังต้องรอลุ้นกันว่าทางด้าน สิงห์บลู ภายใต้การนำทัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์คิดเห็นต่อเรื่องการเสริมทัพกองหน้าคนใหม่อย่างไร เพราะการตัดสินใจดึงตัวของหน้าคนใหม่เข้ามาครั้งนี้ จะต้องผ่านการกรองจากเขาด้วยว่า สนใจร่วมงานกับ ตูราม หรือเปล่า
ในที่สุด มอยเซส ไกเซโด้ แดนกลางวัย 21 ปี ตอบรับข้อเสนอจาก เชลซี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากปล่อยให้เรื่องอนาคตของเขาในวงการลูกหนังคาราคาซังมานานพอสมควร เมื่อสื่อยืนยันว่าเขาพร้อมย้ายออกจากทีมต้นสังกัดเพื่อเซ็นสัญญากับทีมอื่น ส่งผลให้ก่อนหน้านี้มีหลายทีมดังจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิดทันที พร้อมทั้งมีรายงานว่าแต่ละทีมพร้อมจะหาช่องเซ็นสัญญากับเขาเสริมทัพเป็นทางการอีกด้วย
JBO News อัพเดตข่าวสาร วงการกีฬา,อีสปอร์ต จากทั่วโลกที่นี่ที่เดียว
โดยก่อนเจ้าตัวจะตอบรับข้อเสนอของ สิงห์บลู เขาเคยมีข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล อย่างหนัก ซึ่งมีข่าวออกมาว่าทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของทีมดังในถิ่น แอนฟิลด์ พยายามทุกวิถีทางเพื่อดึงเขาเสริมทัพเป็นทางการ แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะดีลดังกล่าวยังคงนิ่งสะดุดมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่าพวกเขาใกล้ปิดดีลแข้งดังกล่าวเติมแกร่งมาแล้วก็ตาม
สำหรับดีลครั้งนี้ทำให้ทางด้าน สิงโตน้ำเงินคราม ใช้ทุนไปทั้งหมด 115 ล้านปอนด์ ด้วยกัน ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดดีลราคาสูงมากทีเดียว ท่ามกลางกระแสความสงสัยว่าทำไมต้องจ่ายเงินสูงมากขนาดนี้ เพราะภาพรวมแล้วเขายังเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ต้องใช้เวลาพัฒนาตัวเอง และต้องพิสูจน์ผลงานรวมถึงฝีเท้าของตัวเองอีกไกลมาก เพื่อการันตีว่าเขาคือคนที่เหมาะกับการเป็นผู้เล่นหลักของทีม และคู่ควรกับราคาค่าตัว 115 ล้านปอนด์หรือเปล่า
ในระหว่างการทำงานให้กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทสำคัญต่อทีม ซึ่งในซีซั่นก่อนหน้านี้เขาทำผลงานยอดเยี่ยมจนกระทั่งถูกใจทีมชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลายแห่ง รวมถึงลีกอื่น ๆ ในยุโรป จากนั้นเขาจึงมักจะตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมชั้นนำหลายแห่งในทันที โดยมี หงส์แดง ภายใต้การนำทัพของ คล็อปป์ ขึ้นแท่นเป็นตัวเต็งมีลุ้นเซ็นเขาสูงมากที่สุด แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือเจอกับความผิดหวัง
ส่วนขั้นตอนการเซ็นสัญญากับทีมไปตอนนี้ยังรอลุ้นผลการตรวจร่างกายกับทีมใหม่เป็นทางการ รวมถึงข้อเสนอที่เขาจะได้รับในสัญญาว่าเขาจะมีเวลาทำงานร่วมกับทีมเป็นทางการกี่ปี พร้อมเงินค่าเหนื่อยสูงเท่าไหร่ ให้เหมาะกับการสร้างแรงบันดาลใจให้เขากล้าเล่นเพื่อทีมต่อเนื่อง หลังจากต้องเข้ามาร่วมงานกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์เป็นครั้งแรก
นอกจากนั้นสิ่งที่แฟน ๆ ทุกคนของ ไกเซโด้ ต้องรอลุ้นกันต่อไปเช่นกันคือ เขาจะมีโอกาสลงเล่นในฐานะตัวจริงของทีมทันทีหรือเปล่า และทำให้การทำงานของทีมก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จตามที่คาดหวังจริง ๆ หรือไม่ ดังนั้นการทำงานระหว่างเขากับทีมใหม่ตอนนี้เป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มา: https://www.thsport.live/news-181376.html
อาร์เจนไตน์มองว่าเขามีคุณสมบัติผู้นำสูง และเชื่อว่าเขาเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าทีมกำลังต้องการอะไรมากที่สุด อีกทั้งเขาน่าจะเข้าใจหลักการทำงานของทุกคนในทีมดี ถึงแม้ตอนนี้เขายังอยู่ในช่วงแข้งดาวรุ่งก็ตาม ซึ่งหลังจากนี้ต้องลุ้นกันว่ากัปตันทีมคนใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน กับการเดินหน้าทำผลงานยอดเยี่ยมในสนามแข่งขัน
JBO News อัพเดตข่าวสาร วงการกีฬา,อีสปอร์ต จากทั่วโลกที่นี่ที่เดียว
การตัดสินใจของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ครั้งนี้ กับการเลือกแนวรับวัย 23 ปี รับบทบาทกัปตันทีมมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ทุกคนที่ร่วมประชุมถือว่ายืนยันให้เขาเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในตำแหน่งดังกล่าว หลังจากทำงานร่วมกับทีมมานาน และหลายครั้งเขามีผลงานน่าประทับใจในสนามแข่งขัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดประเด็นร้อนมากมายตามมาทันที
การเริ่มต้นหากัปตันทีมคนใหม่ครั้งนี้มีที่มาจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แนวรับชาวสแปนิชตัดสินใจย้ายออกจากทีมเป็นทางการ ซึ่งล่าสุดตัดสินใจโยกย้ายไปเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด ทีมดังในบ้านเกิด หลังจากสิ้นสุดสัญญากับทีมโดยไม่มีแผนจะต่อสัญญาเพิ่มเติมออกไป จากนั้นทางด้าน พอร์ช ผู้จัดการทีมคนใหม่ตัดสินใจพุ่งเป้ามาที่เด็กปั้นของทีมทันที เพราะเชื่อว่าบุคลิกของเขาเหมาะกับการรับบทบาทกัปตันทีมสุด ๆ
เส้นทางการทำงานของแนวรับรายนี้คือเขาเติบโตมาจากแคมป์ สิงห์บลู มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จากนั้นค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าต่อเนื่องจนกระทั่งก้าวสู่ทีมชุดใหญ่เป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันนับว่าเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญของทีมในความสำเร็จมากมายหลายซีซั่นที่ผ่านมา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนดังมากมายไม่ว่าจะเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด, โธมัส ทูเคิล ส่วนหลังจากนี้รอลุ้นว่าเขาสามารถสร้างผลงานยอดเยี่ยมเหมือนที่ทุกคนคาดหวังหรือเปล่า
ทั้งนี้ทางด้านแม่ทัพใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์เปิดเผยว่า “เราตัดสินใจเลือกเขาเพราะเขามีจุดเด่นมากมายหลายอย่างในตัว นั่นก็คือเหตุผลหลักของการทำงานมากมายที่ทำให้ผมกับทุกคนในทีมเลือกเขา ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ ความทุ่มเทเพื่อทีมตลอดเวลาที่ร่วมงานกันมา เขาทำให้ผมเห็นชัดเจนมากกว่าคนอื่น ๆ ในทีมเสมอ ซึ่งผมเชื่อว่าเขาจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายออกมายอดเยี่ยมต่อเนื่องแน่นอน”
ทั้งนี้แม้ว่าเส้นทางการทำงานของ เจมส์ ในอดีตจะน่าประทับใจมาโดยตลอด แต่หลังจากนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือ วางตัวให้เป็นผู้นำมากขึ้น รวมถึงทำให้การทำงานของทีมราบรื่นไปด้วยดี โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมาในภายหลัง และพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งมากที่สุดแล้วจริง ๆ
ที่มา: https://www.thsport.live/news-181031.html
เมื่อไม่นานมานี้ทางด้าน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ พูดถึงอนาคต ลีวาย โคลวิลล์ ว่า เจ้าตัวจะมีโอกาสลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงอย่างแน่นอน หากมีมาตรฐานฟอร์มการเล่นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ นอกจากนั้นยืนยันชัดเจนว่าตอนนี้ต้องการให้เจ้าตัวพิสูจน์ตัวเองว่า มีความเหมาะสมกับตำแหน่งตัวจริงในอนาคตรึเปล่า ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือเขาจะมีผลงานยอดเยี่ยมตามที่ทุกคนคาดหวังหรือไม่
JBO News อัพเดตข่าวสาร วงการกีฬา,อีสปอร์ต จากทั่วโลกที่นี่ที่เดียว
สำหรับแผนการทำทีมของแม่ทัพใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ของ เชลซี ในระหว่างปรีซีซั่นนับว่าโดดเด่นไม่แพ้ทีมอื่น และการตัดสินใจดึงตัวผู้เล่นดาวรุ่งขึ้นมาร่วมทัพกับทีมชุดใหญ่ ยิ่งทำให้หลายคนมั่นใจว่าในซีซั่นต่อไปพวกเขาจะมีผลงานโดดเด่น และมีโอกาสก้าวสู่ตำแหน่งท็อป 6 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ยากมากนัก ส่วนตอนนี้การเตรียมทีมของเขายังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับแฟนบอลทุกคนไปในตัวอีกด้วย
เส้นทางการทำงานของ โคลวิลล์ นับว่าเป็นอีกคนที่มีอนาคตสดใสบนเส้นทางการทำงานนักเตะอาชีพ ซึ่งล่าสุดถือว่าเป็นคนที่มาแรงต่อเนื่อง และทำให้การทำงานของทีมมีโอกาสไปได้ไกลอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กัน ซึ่งต้องรอลุ้นกันว่าหลังจากนี้เส้นทางการทำงานของเขาจะตรงตามเป้าที่ทุกฝ่ายวางเอาไว้หรือเปล่า เพราะหากผลงานของเขายอดเยี่ยมต่อเนื่องเท่ากับว่าเขาจะมีโอกาสลงเล่นในฐานะตัวจริงของทีมทันที
อย่างไรก็ตามอนาคตของเขากับทีมในตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน เมื่อมีการต่อสัญญาเพิ่มเติมออกไปแล้ว 6 ปี ให้กับเขา สิ่งตอกย้ำว่าในอนาคตเขายังคงมีลุ้นคืนสู่ตำแหน่งตัวจริงของทีมสูงมาก โดยการต่อสัญญาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเขาทำผลงานยอดเยี่ยมในระหว่างทำงานร่วมกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ในฐานะนักเตะสัญญาเช่า และก่อนหน้านี้เคยมีประเด็นว่าทางด้านทีมดังกล่าวต้องการซื้อขาดเขามาแล้วครั้งหนึ่ง
โดยล่าสุดทางด้านแม่ทัพใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์พูดถึงเรื่องนี้ว่า “ตอนนี้ทุกคนในทีมมีความพร้อมสูงมาก และผมเชื่อว่าการทำงานของเราจะราบรื่นไปได้ด้วยดี โดยไม่ทำให้แฟนบอลทุกคนต้องรู้สึกผิดหวัง และผมมองว่าการเล่นของทุกคนจะทำให้ทีมของเรามีโอกาสก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหลังจากนี้เราต้องมาดูกันต่อว่า เขาจะมีบทบาทสำคัญกับทีมตามที่เราคดาหวังหรือเปล่า”
ทั้งนี้สำหรับแผนการทำทีมของ โปเช็ตติโน่ ยังไม่มีความชัดเจนมากนักถึงแม้ว่าช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา เขาจะส่งนักเตะหลายรายลงสนามแข่งขัน และมีเค้าโครงว่าอาจจะเลือกเป็นนักเตะตัวจริงในอนาคต แต่คาดการณ์กันว่าฟอร์มทีมจะชัดเจนเป็นทางการก็ต่อเมื่อเปิดซีซั่นใหม่เป็นทางการเท่านั้น
ที่มา: https://www.thsport.live/news-180412.html
มีรายงานว่า ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของ โอลิมปิก มาร์กเซย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้เขามีโอกาสย้ายออกจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงหน้าร้อนนี้สูงมาก แต่ต้องรอดูกันว่าเจ้าตัวจะมีโอกาสย้ายทีมจริงตามที่หลายฝ่ายคาดหวังเอาไว้หรือไม่ เนื่องจากตอนนี้โอกาสย้ายทีมของเขาจะเกิดขึ้นหลังจาก สิงห์บลู ตกลงราคาซื้อ-ขายนักเตะกับ มาร์กเซย ลงตัว
ในเบื้องต้นอนาคตของนักเตะ เชลซี ชาวกาบองรายนี้ ไม่ได้อยู่ในแผนการทำงานของ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยอายุและสไตล์การเล่นของเขาไม่ได้สอดคล้องกับแผนการทำทีมแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าก่อนหน้าที่เจ้าตัวเคยมีผลงานโดดเด่นในสีเสื้อของทีมอื่นมาก่อนก็ตาม ดังนั้นเส้นทางการทำงานของเขาที่ดีที่สุดก็คือการมองหาทีมใหม่อย่างเป็นทางการ
โดยตอนนี้มีรายงานออกมาว่าทางด้าน โอเอ็ม พร้อมจ่ายเต็มที่เพื่อปิดดีลนักเตะเสริมแกร่งให้ได้ เนื่องจากพวกเขามั่นใจว่าฝีเท้าและความสามารถของกองหน้ารายนี้ จะช่วยยกระดับทีมก้าวหน้าสู่ความสำเร็จได้อย่างง่ายดายแน่นอน หลังจากเจ้าตัวมีผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และไม่เคยทำให้แฟนบอลทุกคนผิดหวังบ่อย ๆ ทันทีที่มีชื่อลงสนามแข่งขัน แม้ว่าตอนนี้อายุของเขาจะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของเส้นทางนักเตะอาชีพก็ตาม
ในส่วนของค่าฉีกสัญญานักเตะคาดการณ์กันว่าไม่น่าจะแพงเกินไป เนื่องจากปัจจุบันนักเตะยังเหลือสัญญากับทีมอีกแค่ 1 ปี และการต่อสัญญาจะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด ดังนั้นการตัดสินใจปล่อยเขาพ้นทีมโดยเร็วที่สุดคือ การวางราคานักเตะไม่แพงจนเกินไป ซึ่งเปิดโอกาสให้หลายทีมที่สนใจนักเตะรายนี้กล้ายื่นข้อเสนอได้แบบไม่ลังเล โดยคาดการณ์กันว่าค่าตัวของเขาไม่น่าจะสูงถึง 40 ล้านปอนด์แน่นอน
ทั้งนี้หากสุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจตอบรับข้อเสนอ พร้อมทั้งทางผู้บริหารของ สิงโตน้ำเงินคราม รวมถึง โอเอ็ม ได้ข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับการย้ายทีมของเขาเป็นทางการ เท่ากับว่าอดีตนักเตะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รายนี้จะได้สัญญากับทีมใหม่ในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส นาน 3 ปี ทันที ซึ่งหลายฝ่ายมั่นใจว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปด้วยดีในที่สุด เพราะทางนักเตะเองพร้อมย้ายทีมมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามตอนนี้ถึงแม้ว่าทางด้าน โอบาเมยอง กำลังมีข่าวเชื่อมโยงกับทีมดังในศึกใหญ่ของฝรั่งเศส แต่เจ้าตัวยังได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำอีกหลายแห่งในวงการลูกหนังยุโรปเช่นเดียวกัน ดังนั้นในช่วงตลาดหน้าร้อนปีนี้ต้องรอดูกันว่าอนาคตของเขาจะจบลงที่ฝรั่งเศสหรือที่ประเทศไหนกันแน่