โดยล่าสุดทางด้าน เลอบรอน เจมส์ หนึ่งในขุนพลตัวรุกของ แอลเอ เลเกอร์ส เปิดเผยว่า ทีมของเขามีปัญหาเรื่องความพร้อมทำให้สุดท้ายการทำงานของทุกฝ่ายไม่ตรงตามเป้าที่วางเอาไว้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผลการแข่งขันหลายนัดมานี้ทีมของเขาจำเป็นต้องหาวิธีรับมือให้ไวที่สุด เพื่อจบปัญหาต่าง ๆ ให้ไวที่สุด ก่อนทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่าตอนนี้เขาเองพร้อมลุยเต็มที่เพื่อยกระดับทีมไปสู่ความสำเร็จให้ได้ตามที่ต้องการอีกด้วย
JBO News อัพเดตข่าวสาร วงการกีฬา,อีสปอร์ต จากทั่วโลกที่นี่ที่เดียว
ปัญหาของทีมในมุมมองของผู้เล่นมากประสบการณ์รายนี้คือ ทีมของเขามีปัญหาหลายอย่าง โดยเป้าใหญ่คือปัญหานักกีฬาหลายคนมีอาการบาดเจ็บเล่นงาน และทำให้หลายคนไม่สามารถลงสนามแข่งขันได้เลย ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นผลพวงของความผิดหวังที่หลายคนยากจะทำใจได้ เมื่อการสะกดความปราชัยเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถพบเจอได้บ่อยมาก อีกทั้งในเกมที่ผ่านมามีจุดอ่อนให้คู่แข่งโจมตีได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย
โดยผลพวงจากความผิดหวังที่เจอมาล่าสุดคือ พวกเขาสะกดความปราชัยต่อ ร็อคเก็ตส์ ซึ่งจากการวิเคราะห์ของกูรูในวงการบาส NBA ส่วนใหญ่ต่างมองกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเหตุการณ์ความผิดพลาดจากผลงาน 3-5 ส่วนของทีม และหนึ่งใน 3 ส่วนคืออาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีมของเขา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่เหนือคำบรรยายใด ๆ อีกด้วย
โดยเบื้องต้นในตอนนี้สมาชิกของทีมม่วง-ทอง มีมากถึง 4 คนด้วยกัน เริ่มกันด้วย แอนโธนี่ เดวิส ที่มีปัญหาบาดเจ็บที่สะโพกซ้าย ต่อมาคือ จาร์เร็ด แวนเดอร์ มีปัญหาบาดเจ็บที่ส้นเท้า ส่วนรายที่ 3 คือ แจ็คสัน เฮย์ส มีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย และปิดท้ายกันด้วยรายที่ 4 คือ จาเลน ฮู้ด-ไชไฟโน่ มีปัญหาบาดเจ็บเล่นงานที่เข่า นอกจากนั้นจนถึงตอนนี้ทั้งหมดยังไม่มีกำหนดคืนสนามเป็นทางการอีกด้วย
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางด้านฟอร์เวิร์ดวัย 38 ปี ยืนยันว่า “เรามีปัญหาเรื่องความพร้อมของสมาชิก ซึ่งหลายคนมีปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ต้องเจอกับเรื่องอื่น ๆ มากมายตามมาในภายหลัง เช่นผลงานโดยรวมของเราไม่ค่อยดีและตรงเป้า ซึ่งนั่นคือคำถามที่เราทุกคนต้องหาคำตอบกันว่าจะแก้ไขให้จบอย่างไร เพื่อให้เกมต่อไปเรามีโอกาสเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งได้ง่ายมากขึ้น”
นอกจากนั้นแฟน ๆ ส่วนหนึ่งกำลังรอดูว่า เจมส์ จะคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องอย่างไร เพื่อให้มีความกระเตื้องไปในทางที่ดีมากขึ้น รวมถึงทำให้ทีมมีโอกาสลุ้นชนะคู่แข่งในระดับที่ดีมากกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ของทีมในตอนนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะหากยังไม่มีอะไรดีขึ้นจะส่งผลต่อลำดับในตารางคะแนนและโอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเขาทันที
ที่มา: https://www.thsport.live/news-188256.html
อาร์เจนไตน์มองว่าเขามีคุณสมบัติผู้นำสูง และเชื่อว่าเขาเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าทีมกำลังต้องการอะไรมากที่สุด อีกทั้งเขาน่าจะเข้าใจหลักการทำงานของทุกคนในทีมดี ถึงแม้ตอนนี้เขายังอยู่ในช่วงแข้งดาวรุ่งก็ตาม ซึ่งหลังจากนี้ต้องลุ้นกันว่ากัปตันทีมคนใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน กับการเดินหน้าทำผลงานยอดเยี่ยมในสนามแข่งขัน
JBO News อัพเดตข่าวสาร วงการกีฬา,อีสปอร์ต จากทั่วโลกที่นี่ที่เดียว
การตัดสินใจของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ครั้งนี้ กับการเลือกแนวรับวัย 23 ปี รับบทบาทกัปตันทีมมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ทุกคนที่ร่วมประชุมถือว่ายืนยันให้เขาเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในตำแหน่งดังกล่าว หลังจากทำงานร่วมกับทีมมานาน และหลายครั้งเขามีผลงานน่าประทับใจในสนามแข่งขัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดประเด็นร้อนมากมายตามมาทันที
การเริ่มต้นหากัปตันทีมคนใหม่ครั้งนี้มีที่มาจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แนวรับชาวสแปนิชตัดสินใจย้ายออกจากทีมเป็นทางการ ซึ่งล่าสุดตัดสินใจโยกย้ายไปเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด ทีมดังในบ้านเกิด หลังจากสิ้นสุดสัญญากับทีมโดยไม่มีแผนจะต่อสัญญาเพิ่มเติมออกไป จากนั้นทางด้าน พอร์ช ผู้จัดการทีมคนใหม่ตัดสินใจพุ่งเป้ามาที่เด็กปั้นของทีมทันที เพราะเชื่อว่าบุคลิกของเขาเหมาะกับการรับบทบาทกัปตันทีมสุด ๆ
เส้นทางการทำงานของแนวรับรายนี้คือเขาเติบโตมาจากแคมป์ สิงห์บลู มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จากนั้นค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าต่อเนื่องจนกระทั่งก้าวสู่ทีมชุดใหญ่เป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันนับว่าเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญของทีมในความสำเร็จมากมายหลายซีซั่นที่ผ่านมา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนดังมากมายไม่ว่าจะเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด, โธมัส ทูเคิล ส่วนหลังจากนี้รอลุ้นว่าเขาสามารถสร้างผลงานยอดเยี่ยมเหมือนที่ทุกคนคาดหวังหรือเปล่า
ทั้งนี้ทางด้านแม่ทัพใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์เปิดเผยว่า “เราตัดสินใจเลือกเขาเพราะเขามีจุดเด่นมากมายหลายอย่างในตัว นั่นก็คือเหตุผลหลักของการทำงานมากมายที่ทำให้ผมกับทุกคนในทีมเลือกเขา ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ ความทุ่มเทเพื่อทีมตลอดเวลาที่ร่วมงานกันมา เขาทำให้ผมเห็นชัดเจนมากกว่าคนอื่น ๆ ในทีมเสมอ ซึ่งผมเชื่อว่าเขาจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายออกมายอดเยี่ยมต่อเนื่องแน่นอน”
ทั้งนี้แม้ว่าเส้นทางการทำงานของ เจมส์ ในอดีตจะน่าประทับใจมาโดยตลอด แต่หลังจากนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือ วางตัวให้เป็นผู้นำมากขึ้น รวมถึงทำให้การทำงานของทีมราบรื่นไปด้วยดี โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมาในภายหลัง และพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งมากที่สุดแล้วจริง ๆ
ที่มา: https://www.thsport.live/news-181031.html
นับว่าเป็นข่าวดีของแฟน ๆ มากทีเดียวเมื่อ เลบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ดคนสำคัญของ แอลเอ เลเกอร์ ทีมบาสชั้นนำในลีกสูงสุดของอเมริกา ออกมายืนยันอนาคตของตัวเองแล้วว่ายังคงทำงานร่วมกับทีมต่อไป โดยยังไม่มีแผนอำลาต้นสังกัดหรือลีกอาชีพเพื่อพักผ่อนอย่างที่หลายคนกลัว โดยทิ้งท้ายว่าหลังจากนี้เขาพร้อมลงสนามพร้อมด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด เพื่อการันตีว่าอายุไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้เขาไม่สามารถเล่นในลีกสูงสุดได้อีกต่อไป
การการันตีอนาคตของฟอร์เวิร์ดรายนี้ว่า เขายังคงเป็นส่วนหนึ่งของศึก NBA ต่อไป นับว่าเป็นการเดินทางบนเส้นทางนักกีฬาบาสเกตบอลอาชีพปีที่ 21 ของเขาไปโดยปริยาย และการการันตีของเขาครั้งนี้สร้างความมั่นใจให้กับแฟนของทีมแชมป์ 17 สมัย โดยตรง ด้วยผลงานของเขาถึงแม้ว่าตอนนี้จะอายุอานามจะอยู่ที่ 38 ปี แต่ยังคงสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งในสนามแข่งขันได้ตลอดเวลา
ย้อนกลับไปดูผลงานของผู้เล่นรายนี้ในช่วงซีซั่นที่ผ่านมา โดยถือว่าเป็นซีซั่นที่เขาต้องเจอกับความยากลำบากมากที่สุด ด้วยเขาพลาดโอกาสลงสนามแข่งขันไป ถึง 27 นัดในซีซั่นที่ผ่านมา หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ส่วนของเกมแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาลก่อน เนื่องจากเจ้าตัวมีปัญหามากมายเข้ามาแทรกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาการบาดเจ็บซึ่งรบกวนเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาไม่สามารถดึงความเก่งที่มีทั้งหมดออกมาได้
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นในซีซั่นก่อนยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของเขาอีกด้วย เมื่อสื่อหลายสำนักตีข่าวตรงกันว่าเจ้าตัวอาจจะตัดสินใจแยกทางกับต้นสังกัดสูงมาก โดยช่วงเวลานั้นสิ่งที่สื่อรายงานออกมาส่งผลให้หลายคนตั้งคำถามว่า สุดท้ายเขาจะตัดสินใจแยกทางและอำลาวงการนี้จริงหรือเปล่า แต่ล่าสุดน่าจะทำให้หลายคนใจชื้นมากขึ้นเมื่อเจ้าตัวออกมาการันตีแล้วว่ายังคงตั้งใจปักหลักเล่นในลีกสูงสุดของทีมต่อไป
อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าตัวยืนยันชัดเจนถึงอนาคตของเขากับ เลเกอร์ ในซีซั่นหน้า เพื่อความมั่นใจต่อแฟน ๆ ทุกคนอย่างต่อเนื่องว่าพวกเขาพร้อมลุยเต็มที่เพื่อทีมจริง ๆ “ผมยังไม่มีแผนจะบอกลาทีม แม้ว่ายังบอกไม่ได้ว่าจะเล่นกีฬานี้ไปอีกนานแค่ไหน และผมมองว่าเมื่อไรก็ตามที่ถึงเวลานั้นจริง ๆ ผมจะคอยเลิกเล่นอย่างเป็นทางการ แต่ในวันนี้ปมย้ำว่าเป็นโชคดีของเราทุกคนที่มันยังมาไม่ถึง”
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าปัจจุบันทางด้าน เจมส์ จะมีอายุ 38 ปี แล้ว แต่เรื่องฟอร์มแพรวพราวของเขายังไม่เป็นรองใคร และถึงแม้มีปัญหาบาดเจ็บเล่นงานแต่สถิติโดยเฉลี่ยคือ 28.9 แต้ม, 8.3 รีบราวน์ด บวกกับ 6.8 แอสซิสต์ แถมยังมีชื่อติดออลสตาร์เป็นหนที่ 19 อีกด้วย