JBONEWS ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส ที่ได้สิทธิ์ดราฟต์ รอบ 2 อันดับ 55 โดยพวกเขาตัดสินใจเลือก บรอนนี่ เจมส์ ลูกชายคนโตของเลบรอน เจมส์ ซุปเปอร์สตาร์ของทีม จากมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์น แคลิฟลอเนีย เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เรียบร้อย และทำให้ทั้งคู่กำลังจะกลายเป็นพ่อลูกคู่แรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นเคียงข้างกันในศึกบาสเกตบอล NBA
สำหรับ บรอนนี่ เจมส์ ปัจจุบันมีอายุเพียง 19 ปี และเพิ่งเล่นในระดับมหาวิทยาลัยมาแค่ 1 ฤดูกาล นั่นคือการเล่นให้ ยูเอสซี โทรจันส์ ทีมของ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย โดยผลงานของเขาคือการทำแต้มได้เฉลี่ย 4.8 แต้มต่อเกม, ทำรีบาวด์ได้เฉลี่ย 2.8 ครั้งต่อเกมและทำ 2.1 แอสซิสต์ต่อเกม ส่วนค่าเฉลี่ยการได้ลงเล่นของเขาอยู่ที่ 19.3 นาทีต่อนัด
เลบรอน เจมส์ ในวัย 39 ปี เคยให้สัมภาษณ์ว่าฝันของเขาคืออยากจะลงเล่นร่วมกับลูกชายก่อนอำลาสนาม และเวลานี้ฝันของเขาก็กำลังจะกลายเป็นจริง หลังเลเกอร์ส ตัดสินใจดราฟท์ บรอนนี่ เจมส์ ซึ่งเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลังหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันระหว่างซ้อมเมื่อเดือนส.ค.ปีก่อนนั้น เข้ามาร่วมทีมแล้ว
โดย เลบรอน เจมส์ ที่ลงเล่นไปแล้ว 21 ฤดูกาลใน NBA กำลังจะหมดสัญญากับลอสแองเจลิส เลเกอร์ส และคาดการณ์กันว่าการดราฟต์ตัวบรอนนี่ เจมส์ เข้าทีม จะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ซุปตาร์วัย 39 ปี จะต่อสัญญากับทัพม่วงทองอย่างแน่นอน และต้องมารอดูว่าสัญญาที่คาดกันว่าจะเป็นสัญญาสุดท้ายในอาชีพการเล่นของเลบรอน เจมส์ จะเซ็นต่อไปอีกกี่ปีและมูลค่าสัญญาจะมีมูลค่าเท่าไหร่
โดย ร็อบ เพลินก้า รองประธานฝ่ายปฎิบัติการบาสเกตบอลและผู้จัดการทั่วไปของทีมเลเกอร์ส เผยว่า “ผมนึกถึงแฟรนไชส์ที่มีประวัติศาสตร์บาสเกตบอล และคุณคิดว่าในประวัติศาสตร์ของ NBA ไม่เคยมีพ่อและลูกที่ได้เล่นในสนามบาสเกตบอลด้วยกัน และนั่นรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่มีมนต์ขลัง และเรารู้และต้องเคารพแน่นอนว่าเลบรอน เจมส์ มีการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกจากทีม และผมมั่นใจว่าเขาและครอบครัวของเขาและตัวแทนของเขาจะพิจารณาว่าพวกเขาจะทำอะไร และแน่นอนเขามีอิสระที่จะตัดสินใจสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาและครอบครัว แต่ถ้ามันลงตัวที่เขาอยู่ในทีมของเราในฤดูกาลหน้า ประวัติศาสตร์ของ NBA อาจจะเกิดขึ้น และประวัติศาสตร์ของ NBA ควรจะเกิดขึ้นในชุดแข่งของเลเกอร์ส”
ที่มา: https://www.nba.com/lakers/
#JBO #JBOThailand #ดิมิทาร์เบอร์บาตอฟ #เบอร์บาตอฟ #JBOxBerbatov #JBOที่เดียวที่คุณจะชนะ #สุดยอดเกมส์ชีวิตสุดมันส์ #ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ #GoodGameLiveBetter #YouWinIWin #EURO2024 #ข่าวบอล #Euro2024xJBO #ยูโร2024 #Euro2024
ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของบาสเกตบอล NBA หรือรางวัล Kia NBA Most Valuable Player ประจำฤดูกาล 2023-24 ผลปรากฎว่าเป็นไปตามความคาดหมายของสื่อมวลชน นั่นก็คือ นิโกล่า โยคิช เซนเตอร์ของทีม เดนเวอร์ นักเกตส์ ที่ทำแต้มทิ้งอันดับ 2 และ 3 อย่าง เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์กับลูก้า ดอนซิซ ตามลำดับ
การคว้ารางวัล MVP ของนิโกล่า โยคิช ในฤดูกาลนี้ เป็นรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าสมัยที่ 3 ภายใน 4 ปี 2 ครั้งแรกได้ในฤดูกาล 2020-21 และ 2021-22 มาพลาดทำ 4 ปี เมื่อฤดูกาลที่แล้วเพราะแพ้โหวตให้กับโจเอล เอ็มบีด นอกจากนี้การคว้ารางวัล MVP เป็นสมัยที่ 3 ยังทำให้เซนเตอร์ชาวเซอร์เบียร์ ทำสถิติขึ้นมาเทียบเท่า 3 ตำนานของ NBA ทั้งโมเสส มาโลน,เมจิค จอห์นสัน และแลร์รี่ เบิร์ด โดยสถิติ MVP ฤดูกาลปกติที่ทำได้สูงสุดยังคงเป็นของ คาริม อับดุล จับบาร์ ยอดตำนานเซนเตอร์ของลอสแองเจอลิส เลเกอร์ส ที่ทำไว้ 6 สมัย
โดยผลการโหวตจาก 5 กลุ่มโหวต คะแนนส่วนใหญ่ของกลุ่มที่ 1 ที่มีคะแนนโหวตมากที่สุดเทให้กับนิโกล่า โยคิช คะแนนรวมจึงสูงที่สุดและคว้ารางวัลไปครอง ซึ่งนิโกล่า โยคิช ได้คะแนนจากการโหวตจาก 5 กลุ่มโหวตรวม 926 คะแนน โดยมี เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ การ์ดจาก โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ ได้คะแนนโหวตตามมาห่างๆ ที่ 640 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นลูก้า ดอนซิซ การ์ดจากดัลลัส แมฟเวอร์ริก ที่ 566 คะแนน สอดคล้องกับผลงานระดับมาสเตอร์พีชของ นิโกล่า โยคิช ในฤดูกาล 2023-24 ทำแต้มสูงสุดเป็นอันดับ 10 ของลีก รีบาวน์อันดับ 4 ของลีกและแอสซิสต์ สูงสุดต่อเกมเป็นอันดับ 3 ของลีก และนิโกล่า โยคิช กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ NBA ที่ทำได้อย่างน้อย 2,000 คะแนน 900 รีบาวน์ และ 700 แอสซิสต์ ต่อจากออสก้า โรเบิร์ตสัน ที่เคยทำได้ในฤดูกาล 1961-62
นิโกล่า โยคิช ให้สัมภาษณ์หลังได้รางวัล MVP ว่า “ผมไม่รู้จะพูดยังไง มันคือการเดินทาง มันคือกระบวนการ มันคือการไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อนร่วมทีมของคุณ และเพื่อนร่วมทีมก็เชื่อในตัวคุณ มันคือความพยายามร่วมกันทั้งทีมเลยทำให้ผลงานของผมโดดเด่นและสะดุดตาทุกคน และทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นกับผม”
นิโกล่า โยคิช จบฤดูกาลด้วยการทำ ดับเบิ้ลดับเบิ้ล เป็นอันดับ 2 ของลีก 68 ครั้ง และทำทริปเปิ้ลดับเบิ้ล 25 ครั้ง ก็เป็นอันดับ 2 ของลีกเช่นกัน และเปอร์เซนต์ยิงฟิลโกล์จบฤดูกาลที่ 58.3 % สูงสุดเป็นอันดับ 10 ของลีก โดยผลงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องของเซนเตอร์เซอร์เบีย ส่งผลให้ผลงานของทีมเดนเวอร์ นักเกตส์ จบฤดูกาลด้วยสถิติชนะ 57 แพ้ 25 เกม ผลงานที่ดีที่สุดร่วมของประวัติศาสตร์สโมสรที่เคยทำได้
นอกจากรางวัล MVP แล้ว รางวัลอื่นๆ ก็ประกาศออกมาแล้วเช่นกัน
Rookie of the year ตามคาดเต็ง 1 วิคเตอร์ เวมบันยาม่า เซนเตอร์จากซานอันโตนิโอ สเปอร์ส
Defensive Player of the Year รางวัลนี้มีดราม่าเล็กน้อยเมื่อคนได้รางวัล คือ รูดี้ โกแบร์ เซนเตอร์จากมินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟ ที่ผลโหวตชนะวิคเตอร์ เวมบันยาม่า แต่สื่อกางสถิติเกมรับ เวมบันยาม่า สถิติดีกว่าทุกอย่าง
Most Improved Player ผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม ไทรีส แมกซี่ย์ การ์ดจากฟิลาเดเฟีย เซเวนตี้ ซิกเซอร์ส
Sixth Man of the Year ผู้เล่นสำรองยอดเยี่ยม นาซ รีด ฟอร์เวิร์ดจากมินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟ
Coach of the Year มาร์ค เดก์โนต์ ของโอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์
Clutch Player of the Year สตีเฟ่น เคอร์รี่ จากโกลเดน สเตรท วอร์ริเออร์ส
ที่มา : https://www.nba.com/news/nikola-jokic-2023-24-kia-mvp และ https://www.nba.com/news/nba-names-2023-24-award-finalists
#JBO #JBOThailand #ดิมิทาร์เบอร์บาตอฟ #เบอร์บาตอฟ #JBOxBerbatov #JBOที่เดียวที่คุณจะชนะ #สุดยอดเกมส์ชีวิตสุดมันส์ #ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ #goodgamelivebetter #youwiniwin #EURO2024 #ยูโร2024 #ข่าวบอล
เป็นธรรมดาของทุกปีหลังจบฤดูกาลปกติ NBA จะออกมาประกาศ 3 รายชื่อแคนดิเดตเข้าชิงรางวัลส่วนตัวต่างๆ โดยปีนี้มี 7 รางวัลที่น่าสนใจ MVP ผู้เล่นยอดเยี่ยม,SixthMan of the year ผู้เล่นสำรองยอดเยี่ยม,Rookie of the year ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม,Coach of the year โค้ชยอดเยี่ยม,Defensive player of the year ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยม,Most improved player of the year ผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม,Clutch player of the year ผู้เล่นที่เล่นภายใต้ความกดดันยอดเยี่ยม
รางวัลใหญ่สุดหนีไม่พ้น รางวัล MVP ผู้เล่นยอดเยี่ยม หรือ ผู้เล่นทรงคุณค่า ประจำฤดูกาล โดย รายชื่อที่หลุดเข้ามา 3 คนสุดท้าย เป็นไปตามที่สื่อคาดหมายไว้ เต็ง 1 ยังคงเป็น นิโกล่า โยคิช เซนเตอร์เซอร์เบียของเดนเวอร์ นักเกตต์ เจ้าของ MVP 2 สมัย ที่ผลงานในฤดูกาลปกติ 26.4 แต้มต่อเกม,12.4 รีบาวด์ต่อเกม และ 9 แอสซิสต์ต่อเกม เรียกได้ว่าครบเครื่อง และพาเดนเวอร์ นักเกตต์ จบอันดับ 2 ของสายตะวันตก โดยมีลูก้า ดอนซิซ ของดัลลัส แมฟเวอร์ริกซ์ ที่เป็นแชมป์ทำแต้มสูงสุดในฤดูกาลนี้ 33.9 แต้มต่อเกม ยังทำ 9.8 แอสซิสต์ต่อเกม ส่วนผู้ท้าชิง MVP อีกคนคือ เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ ดาวรุ่งพุ่งแรง ที่นำทัพโอกลาโฮม่า ซิตี้ ทันเดอร์ จบอันดับ 1 ของฝั่งตะวันตก โดยมีผลงานส่วนตัว 30.1 แต้มต่อเกม 6.2 แอสซิสต์ต่อเกม 5.5 รีบาวด์ กับอีก 2 สตีลต่อเกม เรียกได้ว่าฟอร์มหรูทั้ง 3 คน
ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลของทีมเด็กก็ว่าได้ เพราะทีมที่ผลงานแรงเกินคาดอย่างโอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์,มินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 2 ทีมจากฝั่งตะวันตก รวมถึงออลันโด้ เมจิก จากฝั่งตะวันออก ต่างก็มีสตาร์หรือตัวชูโรงเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ ที่อายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก 24.12 ปี นำโดย เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ 25 ปี และเชท โฮล์มเกรน รุคกี้วัย 21 ปี ขณะที่ ออลันโด้ เมจิก ที่นำโดยเปาโล บันเชโร่ อดีตดราฟท์ 1 ปี 2022 ก็อายุเพียง 21 ปี พาทีมจบที่ 5 ของฝั่งตะวันออก ด้านมินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ที่มีแอนท์แมน แอนโทนี่ เอ็ดเวิร์ด นำทัพค่าเฉลี่ยอายุของพวกเขาก็อยู่ที่ 25.31 ปี อันดับที่ 11 จากทั้งหมด 30 ทีม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลของ 3 ทีมที่กล่าวถึงต้องยกเครดิตให้โค้ชของพวกเขาซึ่งมีชื่อเข้าชิงโค้ชยอดเยี่ยมประจำปี ทั้งเต็ง 1 อย่าง มาร์ก เดกโนลต์ โค้ชของโอกลาโฮม่า ซิตี้ ทันเดอร์ ที่ได้โหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพทั้ง 30 คน ซึ่งห้ามเลือกตัวเอง โหวตให้เป็นโค้ชยอดเยี่ยมของสมาคมโค้ชสหรัฐฯ ไปแล้ว 1 รางวัล โดยต้องแข่งกับคริส ฟินซ์ และ จามาล มอสลี่ย์ 2 โค้ชจากมินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์และออลันโด้ เมจิก ตามลำดับ
โดยรุคกี้ยอดเยี่ยมปีนี้ 3 รายชื่อสุดท้ายที่ได้เข้าชิง มี เชท โฮล์มเกรน รุคกี้ปี 2 (ปีแรกเจ็บไม่ได้เล่น) จากโอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ ,แบรนดอน มิลเลอร์ ดราฟท์อันดับ 2 จากชาร์ลอตต์ ฮอร์เนตส์ และเต็ง 1 อย่างวิคเตอร์ เวมบันยาม่า ดราฟท์อันดับ 1 ปีนี้ ที่โชว์ฟอร์มแบกซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 21.4 แต้มต่อเกม 10.6 รีบาวด์ต่อเกม 3.9 แอสซิสต์ต่อเกม เรียกได้ว่าน่าจะนอนมาอีก 1 รางวัล
ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมประจำปี 3 ชื่อสุดท้ายมี แบม อเดบาโย่ จากไมอาร์มี่ ฮีต,รูดี้ โกแบร์ จากมินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ และ วิคเตอร์ เวมบันยาม่า จากซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ที่มีลุ้นอีกรางวัล
ส่วนสำรองยอดเยี่ยม มาลิค มังค์ จากสคราเมนโต้ คิงส์,บ๊อบบี้ พอร์ติส จูเนียร์ จากมิควอคกี้ บัคส์และ นาซ รีด จากมินนิโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์
ขณะที่รางวัลพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม ไทรีส แมกซี่ย์ จากฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ ซิกเซอร์ส,อัลเพเรน เซนกุน จากฮุสตัน ร็อคเกตต์ส และโคบี้ ไวท์ จากชิคาโก้ บูลล์ส
รางวัลผู้เล่นที่เล่นภายใต้แรงกดดันได้ดีที่สุด สตีเฟ่น เคอร์รี่ จากโกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส,เดมาร์ เดโรซาน จากชิคาโก้ บูลล์ และ เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ จาก โอกลาโฮม่า ซิตี้ ทันเดอร์
ที่มา : https://www.nba.com/news/nba-names-2023-24-award-finalists
บาสเกตบอล NBA ฤดูกาลปกติ ใกล้จบลงแล้ว เราใกล้จะได้เห็นโฉมหน้าทีมที่จะได้เข้าเพลย์อินและเพลย์ออฟ ตามลำดับ นอกจากทีมที่จะได้ลุยในรอบเพลย์ออฟ เพื่อลุ้นแชมป์แล้วยังมีรางวัลส่วนตัวต่างๆ ให้ได้ลุ้นด้วยและรางวัลใหญ่สุดก็หนีไม่พ้นรางวัล Most Valuable Player หรือ MVP โดยสื่อใหญ่อย่าง ESPN เปิดโหวต โดยทำตาม NBA ทุกกระบวนการ
หลัง ESPN สื่อดังฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่เกาะติดบาสเกตบอล NBA มาโดยตลอด ได้เปิดโหวต ว่าใครเหมาะที่จะเป็น MVP ในปีนี้ โดยมีนักบาสที่ติดโผในโพลของ ESPN 10 คน ประกอบไปด้วย นิโกล่า โยคิช จากเดนเวอร์ นักเกตส์, เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ จากโอกลาโฮม่า ซิตี้ ทันเดอร์,ยานนิส อันเททูคุมโป้ จากมิลวอคกี้ บัคส์,ลูก้า ดอนซิซ จากดัลลัส แมฟเวอร์ริก,เจสัน ทาทัมกับเจเลน บราวน์ 2 คู่หู จากบอสตัน เซลติกส์,จาเลน บรันสัน จากนิวยอร์ค นิกส์,แอนโทนี่ เอ็ดเวิร์ด จากมินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟ,คาไว เลียวนาร์ด จากลอสแองเจลิส คลิปเปอร์ และ โดแมนทาส ซาโบนิส จากซาคลาเมนโต้ คิงส์
นิโกล่า โยคิช เซนเตอร์ไอคิวสูง ของเดนเวอร์ นักเกตส์ เคยได้ MVP ในฤดูกาลปกติมาแล้ว 2 ครั้งติดต่อกันในฤดูกาล 2020-21 และ 2021-22 ก่อนจะแพ้โหวตให้โจเอล เอมบีด ในฤดูกาลที่ผ่านมา พลาดโอกาสเป็น MVP 3 ปีติด และฤดูกาลนี้ นิโกล่า โยคิช ยังคงครบเครื่อง ทั้งทำแต้ม ทั้ง รีบาวด์ ทั้งจ่ายบบอลด้วยสถิต 26.4 แต้มต่อเกม 12.3 รีบาวนด์ต่อเกม และ 9 แอสซิสต์ต่อเกม นำทีมเดนเวอร์ นักเกตต์ แชมป์เก่า ขึ้นมาเป็นเต็ง 1 ในการลุ้นป้องกันแชมป์ และถ้า นิโกล่า โยคิช ได้ MVP เป็นครั้งที่ 3 จะก้าวขึ้นไปทาบสถิติ MVP 3 สมัย เทียบเท่ากับโมเสส มาโลน,แลร์รี่ เบิร์ด และเมจิค จอห์นสัน โคตรตำนานของ NBA
หลังจาก ESPN ลองใช้กระบวนการโหวตเดียวกันกับมาตรฐานของ NBA ผลปรากฎว่า 5 อันดับแรก คือ อันดับ 1 นิโกล่า โยคิช คะแนนรวมโหวตทิ้งห่าง คนอื่นๆ ไปไกล ถึง 953 คะแนน เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ ตามมาห่างที่ 626 คะแนน อันดับ 3 เป็นลูก้า ดอนซิซ 493 คะแนน ตามมาด้วยยานนิส อันเททูคุมโป้ 334 คะแนน และอันดับ 5 เจสัน ทาทั่ม 119 คะแนน เรียกได้ว่าจากการเปิดโหวตของ ESPN นิโกล่า โยคิช คือเต็ง 1 ตัวจริง
หลังจากขึ้นรับรางวัล MVP ครั้งแรกในอาชีพ ในปี 2021 ซูเปอร์สตาร์ของทีมเดนเวอร์ นักเกตส์ ถูกถามว่าเขาตั้งตารอให้พิธีการนี้รีบจบลงหรือไม่ เซนเตอร์ไอคิวสูง ตอบกับทันทีว่า พูดตามตรง ใช่ โยคิช ยังบอกกับนักข่าวอีกว่า การได้ MVP ติดต่อกัน มันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยสำหรับตัวเขา เขาแค่พยายามเอาชนะในเกมบาสเกตบอลก็เท่านั้น
ที่มา: https://www.espn.com/nba/insider/story/_/id/39861520/nba-mvp-straw-poll-where-jokic-luka-sga-other-contenders-stand-our-final-vote-2023-24
เกมระหว่าง ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ที่เปิดบ้านเจอกับแชมป์เก่า เดนเวอร์ สู้กันได้อย่างสูสีตั้งแต่ควอเตอร์แรก แม้ว่าทางฝั่งทีมเยือน ที่มีกำลังหลักอย่าง โยคิช จะเป็นฝ่ายทำแต้มนำได้ก่อน แต่หลังจากนั้นกลายเป็นว่า เจ้าถิ่นเร่งเครื่องทำแต้ม จนสุดท้ายพลิกสถานการณ์ แซงชนะได้อย่างหวุดหวิด ด้วยผลงานของ ไครี เออร์วิง สตาร์ตัวเก่งของทีม ที่โซโล่เดี่ยวทำแต้มในจังหวะสุดท้าย หยุดคว้าร้อนแรงของทีมแชมป์เก่าได้สำเร็จ
1 ในผู้เล่นที่เป็นสตาร์แห่งวงการบาสเก็ตบอล NBA ฤดูกาลนี้ ก็คือผู้เล่นหมายเลข 11 แห่งดัลลัส ซึ่งเคยคว้าแหวนแชมป์มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อสมัยที่อยู่กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เมื่อปี 2016 โดยทำหน้าที่ร่วมกับ เลบรอน เจมส์ แต่นั่นก็คือแชมป์ครั้งแรกและครั้งเดียว ที่เขาเคยได้กับทีม แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เล่นวัย 31 ปีรายนี้ ก็ยังคงตั้งเป้าที่จะคว้าถ้วยรางวัลให้ได้อีกครั้ง และหวังว่าจะทำได้กับแมฟเวอริกส์
ไฮไลท์สำคัญของเกมในคู่นี้ อยู่ที่เกมในควอเตอร์สุดท้าย โดยตอนที่เหลือเวลาอีกแค่ 5.29 นาที แมฟส์ทำท่าว่าพวกเขาน่าจะชนะได้ไม่ยาก หลังจากที่เป็นฝ่ายนำอยู่ถึง 10 แต้ม 98-88 แต่ถึงอย่างนั้นกลับกลายเป็นว่า พวกเขาโดนเดนเวอร์ นักเก็ตส์ เดินหน้าทำแต้มไล่ตามมา จนกระทั่งตามตีเสมอได้ 102-102 ตอนที่เหลือเวลาอีกแค่ 1.05 วินาที และทำให้นาทีสุดท้าย ต้องลุ้นกันอย่างหนัก
เดนเวอร์ อุตส่าห์ทำ 3 แต้มขึ้นนำได้แล้วแท้ ๆ แต่พวกเขาดันมาโดนทีเด็ดจาก ลูกา ดอนซิช ยิง 3 แต้มคืนอย่างทันควัน ตีเสมอเป็น 105-105 ตอนที่เหลือเวลาอีกแค่ 24 วินาทีสุดท้าย ซึ่งทางฝั่งทีมเยือน ก็พยายามที่จะบุกทำแต้มเพื่อโอกาสชึ้นนำอีกครั้ง แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ เสียบอลให้กับการเล่นของฝั่ง ดัลลัส
และท้ายที่สุดแล้ว ตอนที่เหลือเวลาอีกแค่ 2.8 วินาทีสุดท้าย แม็กซี เคลเบอร์ จ่ายให้ เออร์วิง วิ่งเลี้ยงบอลสลัดหนีตัวประกบอย่าง โยคิช ที่พยายามเข้ามาบล็อกแล้วแต่ไม่ทัน ลีลาการชู้ตที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา กระโดดยิงมือเดียว ทำแต้มสำคัญตอนที่ออดหมดเวลาดังขึ้นมาพอดี กลายเป็นพลิกเกมให้ทีมชนะไปได้แบบสะใจแฟนทั้งสนาม
ไมเคิล มาโลน โค้ชของเดนเวอร์ นักเก็ตส์ ต้องยอมซูฮกในผลงานของ เออร์วิง ในเกมนี้ โดยกล่าวว่า “จังหวะยิงที่สุดจริงของ ไครี ต้องยกเครดิตให้เขาเต็มที่”
ในขณะที่ เออร์วิง ก็พูดถึงจังหวะยิงในลูกสุดท้ายว่า “ผมเห็น นิโกลา โยคิช เข้ามาไล่บีบให้ผมออกไปทางซ้าย ผมรู้ว่าเขาจะเข้ามา แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาประชิดแบบนั้น เขาบีบให้ผมออกไปที่เขต 3 แต้ม แล้วผมก็รู้สึกว่าเขาไปอยู่ข้างหลังของผมแล้ว ผมก็แบบ โอ้ ผมเหลือมือซ้าย มุมเปิดกว้าง ทีนี้ทำไมจะไม่ได้กันล่ะ?”
ที่มา: https://www.espn.com/nba/recap/_/gameId/401585606
https://www.espn.com/nba/story/_/id/39755510/kyrie-irving-wows-mavericks-lefty-hook-sink-nuggets
ผลงานของ ดาร์เมียน ลิลลาาร์ด การ์ดออลสตาร์ 7 สมัยของ มิลวอคกี้ บัคส์ ยังคงทำผลงานยอดเยี่ยมกับต้นสังกัด และล่าสุดสถิติของเขาในการทำงานร่วมกับต้นสังกัดคือ เดินหน้าทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดี อีกทั้งตอนนี้ถือว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่มีบทบาทยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดเสมอมา ซึ่งล่าสุดเพิ่งขึ้นอันดับ 4 ตำแหน่งนักกีฬายิงไกลตลอดกาลของลีก และคาดว่าน่าจะมีสิทธิ์เพิ่มสถิติยอดเยี่ยมอีกมากมายหลายรายการด้วยกัน
การทำงานของผู้เล่นคนดังเจ้าของฉายา “เจ้าพ่อปิดเกม” ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองได้อย่างดี โดยไม่เคยทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง แถมตอนนี้ผลงานโดยรวมของเขายังช่วยทีมคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งต่อเนื่อง และรั้งอันดับ 3 ของการแข่งขันทางฝั่งตะวันออก ด้วยคะแนนในมือที่มีตอนนี้คือ 641 คะแนน จากการลงเล่นทั้งหมด 64 นัด ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้สมาชิกในทีมวางใจได้สูงมาก
ส่วนผลงานของเขาหลังจากนี้หลายคนเชื่อว่าเขาจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดี และไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง อีกทั้งมองว่าการทำงานของเขาจะพาทีมไปสู่ความสำเร็จระยะยาวมากขึ้น และที่สำคัญเชื่อกันว่าเขาพร้อมจะช่วยยกระดับทีมไปสู่ความสำเร็จตามเป้าที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ชัวร์ว่าแผนงานของเขาในเกมที่เหลือของปีนี้เขาจะวางแผนอย่างไร เพื่อให้ทีมมีลุ้นเก็บชัยชนะต่อเนื่องในรายการต่าง ๆ มากขึ้นแค่ไหน
ผลงานในปัจจุบันของเขากับการลงเล่นในรายการสำคัญมากมายในรายการต่าง ๆ ของปี 2024 โดยตอนนี้เขารั้งอันดับ 4 ของตำแหน่งผู้เล่นชู้ต 3 คะแนนตลอดกาลของลีกบาสเอ็นบีเอ โดยมีคะแนนรวมที่ 2,561 คะแนน ตามหลังอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ 1,000 คะแนนเท่านั้น ทำให้ยังมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงมากที่เขายังคงทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดีทุกรายการแข่งขันในเกมต่อไปอย่างแน่นอน
สถานการณ์ปัจจุบันระหว่างเขากับทีมดังในศึกใหญ่ของเอ็นบีเอคือ เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม และยังอยู่ในกลุ่มที่มีส่วนร่วมกับทีมในฐานะตัวจริงต่อเนื่อง ซึ่งหลายนัดมานี้เขาไม่เคยทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง ดังนั้นอนาคตของเขากับต้นสังกัดยังมีแนวโน้มเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องแน่นอน และเชื่อว่าเขาจะมีโอกาสเพิ่มสิ่งดี ๆ ในการทำงานของทีมอย่างมากในทุกรายการที่เหลือ
ทั้งนี้รอลุ้นกันต่อว่า ลิลลาร์ด ยังคงสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ต่อเนื่องได้หรือเปล่า แต่ปัจจุบันการทำงานของเขากับทีมยังคงได้เชื่อว่าเต็มที่กับทีมเสมอมา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือเขาไม่เคยทำให้ทุกคนต้องกังวลเมื่อเขายืนอยู่ในสนามแข่งขัน
ที่มา: https://www.nba.com/news/damian-lillard-passes-reggie-miller-for-4th-all-time-in-made-3-pointers
สื่อหลายแห่งพูดถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นกับ คริส เฟลมมิง ผู้ช่วยคนสำคัญของโค้ชจากทีม ชิคาโก้ บูลส์ ว่า เจ้าตัวมีลุ้นโดนคำสั่งพักงานชั่วคราวสูงมาก หากยังเฉยไม่ออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อสำนึกผิด หรือลดความร้อนของเรื่องฉาวที่เกิดขึ้นในเกมที่ผ่านมา เพราะการมีปัญหากับผู้เล่นของคู่แข่งไม่ใช่เรื่องดี อีกทั้งตอนนี้หลายคนมองว่าเขาไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย หลังจากมีปัญหากับเด็กในทีมเป็นทางการ
การเปิดเผยของสื่อครั้งนี้ย้ำว่าทางด้านทีมงานคณะกรรมการด้านวินัยของศึกบาสเอ็นบีเอ พร้อมจะทำหน้าที่ทันทีหากเจ้าตัวยังนิ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ รวมถึงไม่ยอมออกมาขอโทษคู่กรณีที่มีฐานะเป็นผู้เล่นของอีกฝ่ายอย่างจริงจัง แม้ว่าหลังเกมเจ้าตัวจะยอมเข้าไปพูดคุยและขอโทษคู่กรณีไปบ้างแล้ว แต่กลับไม่ได้ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างดูดีขึ้น แถมเจ้าตัวยังมีลุ้นโดนสอบวินัยเพิ่มเติมอีกด้วย
การแข่งขันของ Chicago Bulls มีคิวดวลกับทาง Utah Jazz เมื่อวันพุธ ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเกมนี้ บูลส์ ทำได้ดีกว่า เพราะเอาชนะมาได้สำเร็จด้วยสกอร์ไม่ห่างที่ 119-117 คะแนน แต่ในระหว่างเกมกลับมีเรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้น เมื่อผู้ช่วยของ บูลล์ มีปัญหากับนักกีฬาของทีมคู่แข่งและเกิดประเด็นต่อเนื่องขึ้นมา เมื่อผู้ช่วยโค้ชของ บูลส์ ดันไปผลักและกระชาก จอห์น คอลลินส์ นักกีฬาของ ยูทาห์
ในระหว่างเกมแข่งขันดำเนิน บูลส์ มีโอกาสเสียฟาวล์แน่ ๆ เพราะจังหวะที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่ของทีมทันที แต่ถือว่าเป็นโชคดีของ บูลส์ ที่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้พวกเขาเสียฟาวล์ และต้องจบลงด้วยความผิดหวัง แต่สิ่งที่ตามมาคือมีแนวโน้มที่ทีมอาจจะต้องโดนสอบวินัยเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และนั่นก็คือปัญหาที่ต้องติดตามกันต่อว่า คณะกรรมการทางวินัยของเอ็นบีเอ จะว่าอย่างไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ส่วนทางด้าน โดโนแวน ออกมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า “ผมบอกได้เลยว่า เฟลมมิ่ง อยู่ในจังหวะที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่จากมุมกล้องที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนเข้าใจไปอีกแบบ โดยระหว่างนี้ทางด้าน คริส กำลังหาทางแก้ไขคลี่คลายประเด็นที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว และผมคิดว่านี่คือบทเรียนสำคัญของการทำงานของเราทุกคนกับการควบคุมคนของเราให้นั่งอย่างมีสติบนที่นั่งสำรองได้อย่างไรได้บ้าง”
ทั้งนี้สำหรับทางด้าน เฟลมมิง ในตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เพิ่มเติม ซึ่งทำให้ต้องรอลุ้นกันต่อว่าเขาจะรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ส่วนบทลงโทษจะถึงมือของเขาหรือเปล่า เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ตอนนี้ทุกคนกำลังเฝ้ารอคำตอบจากผู้หลักผู้ใหญ่ของเวที NBA
ที่มา: https://www.nba.com/news/bulls-chris-fleming-altercation
เส้นทางการทำงานของ เบน ซิมมอนส์ พอยต์การ์ดตัวหลักของ บรูคลิน เน็ตส์ กลายเป็นประเด็นร้อนที่แฟน ๆ วงการบาสต้องพูดถึงอีกครั้ง โดยการหายไปของเขาครั้งนี้เกิดขึ้นจากอาการบาดเจ็บที่หลัง และจนถึงเวลานี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาพักยาวนานแค่ไหน แต่เบื้องต้นมีการยืนยันว่าเขาจะต้องใช้เวลาพักยาวตลอดทั้งซีซั่นนี้แน่นอน และมันคือปัญหาใหญ่สำหรับทีมของเขาอย่างหนักทันที
โดยทีมแพทย์ยืนยันอาการบาดเจ็บของเขาล่าสุดว่า นักกีฬายัดห่วงในศึกบาสเอ็นบีเอรายนี้จะต้องใช้เวลาพักจริงจังอีกครั้ง เนื่องจากว่าอาการบาดเจ็บที่หลังของเขาค่อนข้างน่าเป็นห่วง และคงไม่ดีแน่หากจะปล่อยให้เจ้าตัวลงสนามแข่งขันต่อเนื่อง เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเขาในระยะยาว ส่วนตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังค้นหาวิธีการรักษาอาการเส้นประสาทถูกกดทับอีกด้วย
สำหรับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เจ้าตัวมีปัญหาบาดเจ็บที่หลัง และเป็นที่จุดเดิมทำให้ทุกฝ่ายเริ่มเป็นกังวล จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ทุกคนมองว่าการตัดสินใจพักเบรกเขาชั่วคราวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี จากนั้นไม่นานจึงมีประกาศยืนยันว่าเจ้าตัวจะต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างเป็นทางการทันที เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยากเสี่ยงให้เขามีปัญหาบาดเจ็บหนักขึ้นกว่าเดิม
การหายไปของเขาครั้งนี้มีผลกระทบต่อทีมโดยตรง เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ชื่อว่าเป็นตัวเลือกสำคัญของทีมมาโดยตลอด ซึ่งผลงานของเขาช่วงที่ผ่านมาคือมี 10 แต้ม 11 แอสซิสต์และ 8 รีบาวด์ ภายใน 18 นาทีที่เจ้าตัวลงสนามแข่งขันในฐานะตัวสำรอง จนพาทีมเอาชนะอยู่ถ้าสำเร็จ นอกจากนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นกับทีมบ่อยครั้ง พร้อมทำผลงานที่น่าประทับใจมาโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นแค่ 8 เกมเท่านั้นเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนเสียก่อน
อย่างไรก็ตามล่าสุดทางด้านผู้บริหารของทาง Brooklyn Nets เปิดเผยว่า “ตอนนี้เจ้าตัวพร้อมด้วยตัวแทนของเขารวมถึงบุคลากรการแพทย์กำลังหารือกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และต่างฝ่ายต่างมองว่าการรักษาอาการของเขาควรไปในทางไหน หลังจากเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บอาการเดียวกันมาก่อน 2 ครั้งด้วยกัน ดังนั้นตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องจริงจังกับการหาทางรักษาอาการบาดเจ็บของเขาให้หายขาดเสียที”
ส่วนตอนนี้ทางบ้านต้นสังกัดของเขาทำได้เพียงแค่รอกำหนดการคืนสนามของ ซิมมอนส์ เท่านั้น และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าเจ้าตัวจะคืนสนามเป็นทางการเมื่อไหร่ ทำให้ทีมต้องวางแผนรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป เพราะตอนนี้ยังมีอีกหลายนัดที่พวกเขาต้องลงสนามแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนนั่นคือการเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งทุกแมตช์ที่เหลือให้ได้
ที่มา: https://www.nba.com/news/ben-simmons-out-for-season
อีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าพอใจสำหรับ Victor Wembanyama เซนเตอ์ดาวรุ่งมาแรงของ ซาน แอนโทนีโอ สเปอร์ส คือ ทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่องจนล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นรุกกี้ประจำเดือนกุมภาพันธ์ สิ่งทุกคนที่ให้คะแนนเข้าต่างลงความเห็นว่าเจ้าตัวเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด หลังจากทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด จนทำให้ทีมมีโอกาสดี ๆ มากมายในสนามแข่งขัน
สำหรับผลงานของผู้เล่นวัย 20 ปี กับการลงสนามแข่งขันภายใต้สีเสื้อของ สเปอร์ส เขาไม่เคยทำให้ทุกคนต้องรู้สึกตงิดใจว่า การลงมาของเขาจะเป็นการสร้างปัญหาให้กับทีม แต่ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเขาคือตัวหลักสำคัญที่จะทำให้ทีมมีโอกาสชนะคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย โดยจุดเด่นของเขาที่ทำให้ทุกคนต้องชมทันทีนั่นก็เรื่องของการบล็อก ทุกครั้งที่เจ้าตัวลงประจำตำแหน่งของตัวเองเข้าทำการบล็อกคู่แข่งไม่ให้เดินเกมได้ตามที่ต้องการได้เลย
เป็นที่รู้กันดีว่านับตั้งแต่ผู้เล่นรายนี้ลงสนามแข่งขันในศึกบาสเอ็นบีเอ ผู้เล่นชาวฝรั่งเศสรายนี้ไม่เคยสร้างมาตรฐานของตัวเองต่ำเลยด้วยซ้ำ จนตอนนี้กลายเป็นตัวเลือกหลักสำคัญของทีมมาโดยตลอด ท่ามกลางความมั่นใจว่าทุกครั้งที่เขายืนอยู่ในสนามแข่งขันโอกาสที่ทีมจะมีโอกาสลุ้นชนะไม่ยาก รวมถึงตอนนี้ทำให้เขาเป็นเป้าหมายของหลายทีมในวงการเดียวกันเรียบร้อยแล้ว สิ่งต้องรอลุ้นกันว่าหลังจากนี้ทาง สเปอร์ส จะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร
ด้านสถิติของเขาในการลงสนามแข่งขันตลอดเวลาที่ผ่านมาคือ 59 แต้ม, 25 รีบาวด์, 13 แอสซิสต์ และ 11 บล็อก จากการลงเล่น 61 เกมก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เขาเป็นคนที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าของตำแหน่ง NBA Rookie of the Month เดือนกุมภาพันธ์ไปโดยปริยาย พร้อมความมั่นใจว่าหลังจากนี้เจ้าตัวจะมีผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เกือบพาทีมเดินหน้าแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นเป็นลำดับต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับรางวัลนี้ถือว่าเป็นรางวัลพิเศษสำหรับเขาอย่างมาก เนื่องจากว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าตัวมากขึ้น และสิ่งที่น่าสนใจหลังจากนี้ก็คือแผนงานของเขา จะมีโอกาสก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จได้อย่างง่ายดายมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่งานนี้ต้องรอดูกันว่าหืผนงานการพัฒนาฝีมือการลงสนามแข่งขันของเขาหลังจากนี้จากไปในรูปแบบไหน ลาวสนั่นยังมีแนวโน้มว่าเจ้าตัวพร้อมจะยกระดับตนเองเพื่อก้าวสู่ระดับออลสตาร์ให้ได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นในปัจจุบันทางด้าน วิคเตอร์ เวมบันยาม่า พร้อมจะเดินหน้าพัฒนาตัวเองไปกับทีม โดยมีแนวโน้มที่จะทำให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น และสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือแผนงานการพัฒนาทีมก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์ NBA ให้ได้
ที่มา: https://www.nba.com/news/kia-rookie-ladder-march-6-2024-edition
โดโนแวน มิทเชล จะไม่มีส่วนร่วมกับทุกสังกัดอย่าง คาวาเลียร์ คลิฟแลนด์ ติดต่อกัน 3 เกมด้วยกัน เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ซึ่งตอนนี้มีเพียงรายงานว่าเขาจะต้องใช้เวลาพักรักษาอาการดังกล่าวตามกำหนดเวลาที่ระบุเอาไว้ ส่วนจะมีการยืดเวลาเพิ่มเติมหรือเปล่าต้องรอดูท่าทีของต้นสังกัดเขาอีกที แต่การหายไปของเขาในช่วง 3 เกมหลังจากนี้ถือว่าเป็นข่าวร้ายของต้นสังกัดอย่างมาก
เหตุผลที่ทำให้การ์ด คลีฟแลนด์ ต้องพักกินเวลา 3 เกมมาจากว่า เจ้าตัวเพิ่งเข้ารับการฉีดเกล็ดเลือดริชพลาสมา (PRP) หลังพบว่ามีอาการบาดเจ็บซ้ำที่กระดูกเข่าซ้าย ทำให้ต้องใช้เวลาพักรักษาตัวต่อเนื่องทันที และตอนนี้ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่การฝืนให้เขาลงสนามแข่งขันในเวลานี้อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเหตุที่จะตามมาในภายหลังอาจจะทำให้เขามีโอกาสบาดเจ็บหนักขึ้นกว่าเดิมได้
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทางด้านทีมดังในศึกบาสเอ็นบีเอ ประกาศยืนยันทันทีว่า พวกเขาจะไม่สามารถใช้การ์ดรายนี้ได้ และหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการประเมินอาการบาดเจ็บภาพรวมอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึง เพื่อประเมินว่าเจ้าตัวควรจะได้พักต่อหรือควรกลับมาซ้อมร่วมกับทีมอย่างเป็นทางการ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายในทีมต้องเร่งมือแก้ไขอย่างเร็วที่สุด
ในเบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาจะกลับมาลงเล่นตามกำหนดการที่ประกาศหรือเปล่า ด้วยตอนนี้ทุกฝ่ายมองว่าหากเร่งรัดส่งเขาลงสนามแข่งขันทันที มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเจอผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอาการบาดเจ็บเจ้าตัวจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม และอาจจะเป็นไปได้สูงที่อาจจะทำให้พวกเขาต้องเจอกับปัญหา มากมายในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการแข่งขันที่อาจจะไม่ตรงตามเป้าที่วางเอาไว้
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ทางบอร์ดบริหารของ คลีฟแลนด์ ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติมใด ๆ นอกเหนือจากประกาศที่เผยแพร่ออกมา ส่งผลให้ตอนนี้แฟนของทีมกำลังล้อลุ้นคำตอบว่า ผู้เล่นรายนี้จะได้ลงเล่นกับทีมเป็นทางการเมื่อไหร่ ส่วนในระหว่างที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสลงเล่นกับทีมพวกเขาจะตัดสินใจวางแผนให้ใครลงสนามแทน เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนมากนักถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยตอนนี้อีกส่วนยังต้องรอดูว่าทางด้าน มิทเชล มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะการหายไปของเขาในตอนนี้ถือว่าเป็นข่าวร้ายที่ทำให้หลายคนในทีมหนักใจพอสมควร เนื่องจากไม่มีชัวร์ว่าเขาจะคืนสนามตามกำหนดการหรือเปล่า เพราะการมีเขาอยู่ในทีมจะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่ามีลุ้นชนะคู่แข่งสูงมากนั่นเอง
ที่มา: https://www.nba.com/news/donovan-mitchell-cavaliers-out-knee-treatment