JBONEWS เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ปิดฉากโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธอได้อย่างสวยงาม หลังสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก เทควันโดหญิง สมัยที่ 2 ติดต่อกัน และยังเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย และเป็นนักกีฬาไทยคนเดียวที่ได้เหรียญโอลิมปิก 3 สมัย
นักเทควันโดสาวไทยเจ้าของเหรียญทองจากโตเกียวเกมส์ 2020 ลงทำการแข่งขันในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ในรอบชิงชนะเลิศ โคจรมาพบกับ กัว ฉิง จากจีน คู่ปรับเก่าในนัดชิงเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่ เทนนิส เอาชนะมาได้ แมตช์ชิงเหรียญทองท่ามกลางแฟนกีฬาที่เข้ามาชมมาเชียร์เต็มสนาม ยกแรก เทนนิส พลาดโดนเตะหัวช่วงท้ายยก แต่ก็ชิงจังหวะต่อยลำตัว และเตะหัวมาแซงเอาชนะช่วงท้ายยก 6-3 จากนั้นยก 2 พาณิภัค พลาดโดนเตะลำตัวช่วงปลายยก แพ้คู่ปรับจีนไป 2-3 เสมอกัน 1-1 ยก ต้องดวลยกสามหาผู้ชนะ ซึ่งในยกตัดสินบรรยากาศค่อนข้างกดดัน แต่ เทนนิส มาได้ 3 คะแนนในการเตะหัว จากจังหวะขอชาเลนจ์ 2 ครั้ง จากนั้นเธอก็ประคองเกมจนสุดท้ายเอาชนะ กัว ฉิง ไปได้ 2-1 ยก 6-3, 2-3 และ 6-2 คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์มาครองได้สำเร็จ
พร้อมปิดฉากเส้นทางเทควันโดในโอลิมปิก ได้อย่างสมบูรณ์แบบและกลายเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน รวมถึงเป็นคนแรกที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิก 3 สมัย นอกจากนี้ในรอบชิงชนะเลิศที่แข่งขันในช่วงดึกเวลา 02.20 น.ตามเวลาประเทศไทย เข้าสู่วันเกิดครบรอบอายุ 27 ปีของ พาณิภัค พอดี ถือเป็นของขวัญวันเกิดที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอ โดย เทนนิส ได้โพสต์ใน Instragram ส่วนตัวว่านี่ เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิต
หลังการแข่งขัน เทนนิส พาณิภัค เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากๆ ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยได้ เหรียญทองนี้เหมือนเป็นการตอบแทนความมุ่งมั่นทุกหยาดเหงื่อของตัวเองเป็นอย่างดี เหมือนเป็นการปลดล็อกตัวเอง พร้อมพยายามไม่ให้ตัวเองกดดัน คิดว่าเป็นแมตช์ธรรมดาทั่วไป ให้ตัวเองคลายความกังวล ส่วนในยกตัดสินช่วง 30 วินาทีสุดท้าย รู้สึกว่าเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้ว ไม่มีอะไรจะเสีย ขอใส่เต็มที่ เลยพยายามเตะเข้าไป และโดนจึงบอกให้ โค้ชเช ขอรีเพลย์ และออกมาดั่งใจ สำหรับเหรียญทองครั้งนี้ เทนนิส บอกว่า เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิต อยากมอบให้กับคนไทยทุกคน ส่วนเรื่องที่เคยประกาศว่าปารีสเกมส์จะเป็นครั้งสุดท้ายในนามทีมชาติ เทนนิส ยอมรับว่าตอนนี้คิดหนักเรื่องอนาคต แต่ร่างกายมีอาการบาดเจ็บ จึงอยากหันไปทำหน้าที่อย่างอื่นบ้าง
ภายหลังจบการแข่งขันได้มีการเปิดเงินรางวัลจากรัฐบาล โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (NSDF) ที่จะมีการมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาตามเงื่อนไขที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก เป็นจำนวนทั้งสิ้น 10,000,000 บาท ในกรณีที่จ่ายครั้งเดียว หรือรับเงินรางวัล 12,000,000 บาท แต่จะเป็นการแบ่งจ่ายโดยรับเงินก้อนแรก 6 ล้านบาท (50%) และที่เหลืออีก 6 ล้านบาท (50%) จะจ่ายรายเดือนตลอดระยะเวลา 4 ปี และเทนนิสยังได้รับเงินเดือน เดือนละ 12,000 บาท ตลอด 20 ปีหลังจากนี้ ซึ่งเงินรางวัลส่วนนี้ ยังไม่รวมของเอกชนเจ้าต่างๆ ที่จะมาร่วมแสดงความยินดี ซึ่งคาดการณ์กันว่ารวมๆ แล้วน่ามูลค่ารวมน่าจะเกิน 20 ล้านบาท
ส่วนตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังรอลุ้นกันต่อว่า โครส จะมีสิทธิ์ลงเล่นในฐานะตัวจริงหรือเปล่า อีกทั้งผลงานของเขาทันทีที่มีส่วนร่วมกับทีมจะออกมาเป็นที่พอใจมากน้อยแค่ไหน เพราะสถานการณ์ปัจจุบันของทัพอินทรีเหล็ก ในเวลานี้ต้องยอมรับว่าย่ำแย่สุด ๆ ใน 5 ปี หลังเป็นต้นมา
ที่มา: https://www.siamsport.co.th/olympics/58899/
#JBO #เบอร์บาตอฟ #GoodGameLiveBetter #YouWinIWin #JBOVIP