ล่าสุด เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังตัวหลักของ ลิเวอร์พูล ออกมายอมรับถึงความผิดพลาดของตัวเอง จนเป็นผลให้ต้นสังกัดเสีย 3 คะแนนต่อคู่แข่งไปอย่างน่าเสียดาย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เจ้าตัวย้ำว่าหากเข้าเคลียร์บอลให้ดีมากกว่านี้ ทีมคงไม่เสียประตูอย่างต่อเนื่อง และคงไม่ต้องเสีย 3 คะแนนสำคัญไป ก่อนทิ้งท้ายว่าหลังจากนี้พร้อมแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น นอกจากนั้นฉากไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังเหมือนเกมที่ผ่านมาอีก
ความผิดพลาดของกองหลังชาวดัตช์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของรายการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในแมตช์ที่พวกเขาต้องบุกไปเยือน อาร์เซนอล ถึงถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และถึงแม้ว่าเกมนี้พวกเขาจะเสียประตูแรกให้กับเจ้าบ้านไปก่อน แต่สุดท้ายกลับมาได้ด้วยการตีเสมอสำเร็จ แต่หลังจากนั้นไม่นานมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเมื่อจังหวะขลุกขลิก ทางด้านกองหลังรายนี้กลับสร้างช็อตฟิลครั้งนี้สำคัญร่วมกับ อเล็กซอน เบคเกอร์ มือกาวชาวบราซิเลียน จนต้องเสียประตูไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะออกมายอมรับว่า การทำงานของเขาในเกมที่ผ่านมาคือจุดเปลี่ยนสำคัญ จนเป็นผลให้ทีมต้องสะกดความผิดหวังกลับมายังถิ่น แอนด์ฟิลด์ แต่แฟนบอลทุกคนยังเชื่อว่าในเกมต่อไปทางแรกเฮดโค้ชชาวเยอรมนี พร้อมจะยื่นโอกาสให้เขาลงเล่นเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าผลงานที่ผ่านมาจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งก็ตาม
สำหรับผลสรุปของเกมที่เพิ่งจบลงไปเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่าน จบลงด้วยทีมเยือนบุกพ่ายเจ้าบ้านมากถึง 1-3 ประตู พร้อมทั้งหมดสิทธิ์เก็บ 3 แต้มสำคัญเพื่อหนีทีมอันดับ 2 ของตารางคะแนนอย่าง อาร์เซนอล และอันดับ 3 อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ตอนนี้กำลังไล่หลังอยู่ที่ 2 และ 5 แต้มตามลำดับ ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ส่งผลให้ทีมต้องเร่งมือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ไวที่สุดทันที
ทั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นมาจากผม โดยหากผมทำได้ดีมากกว่านี้ทีมของเราคงไม่เสียประตูให้กับ อาร์เซนอล ต่อเนื่อง ผมต้องขอโทษและรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหลังจากนี้ผมพร้อมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยไม่ทำให้ทุกคนต้องหนักใจ และกังวลว่าการทำงานของผมจะมีผลกระทบชัยชนะของทีมอีกแน่นอน”
ทั้งนี้เชื่อว่าทางด้าน ฟาน ไดจ์ค น่าจะได้บทเรียนล่ะครับแห่งกลับไปอีกครั้ง เนื่องจากเกมนี้นอกจากเจ้าตัวจะรับบทตัวจริงของทีมแล้ว เขายังทำหน้าที่กัปตันทีมอีกด้วย ดังนั้นการทำงานของเขาในเกมต่อไปจะต้องรัดกุมมากขึ้น และเขาจะต้องทุ่มเทเต็มที่เพื่อพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งที่ 2 ให้ต้นสังกัดให้ได้ เพื่อสร้างความทรงจำดี ๆ ก่อน คล็อปป์ จะลงจากตำแหน่งเป็นทางการ
